2008/11/29

Intel: netbook อาจไม่ใช่อนาคต!!?

ถึงแม้ว่าอินเทลจะเป็นผู้ผลักดันตลาด netbook คนสำคัญ และยอดขายอันร้อนแรงในขณะนี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จ แต่ตอนนี้มันอาจไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว

Stu Pann รองประธานฝ่ายขายและการตลาดของอินเทล ยกประเด็นนี้ในงานประชุมด้าน supply chain ว่าอินเทลกำลังปรับ “มุมมอง” ของบริษัทต่อตลาด netbook โดยมันจะต่างไปจากเมื่อ 1-2 ปีที่ผ่านมา

เดิมทีอินเทลมองว่าตลาด netbook นั้นมีลูกค้าเป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา และกลุ่มเด็ก แต่เอาเข้าจริงแล้ว ลูกค้ารายใหญ่กลับเป็นยุโรปและสหรัฐ รวมถึงกลุ่มผู้ต้องการใช้โน้ตบุ๊กที่พกพาได้สะดวกแทน และผู้ใช้กลุ่มนี้ก็เจอปัญหาว่า สามารถใช้ netbook หน้าจอขนาดเล็ก (10 นิ้ว)​ ได้ไม่สะดวกนัก อย่างเก่งก็ครั้งละไม่เกินชั่วโมงเท่านั้น แถมบางคนต้องต่อจอนอกหรือคีย์บอร์ด ทำให้ netbook ไม่ใช่อุปกรณ์พกพาสักเท่าไร ตอนนี้ ทางอินเทลจึงต้องปรับปรุงแก้ไข หาขนาดและอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับตลาด netbook ต่อไป

ถ้าอินเทลให้ความเห็นแบบนี้ ก็จะสอดคล้องกับทิศทางของเอเอ็มดี ซึ่งบอกว่าไม่สนใจตลาด netbook แต่จะจับตลาด ultraportable ที่สูงขึ้นมาอีกขั้น (ข่าวเก่า) ผมว่างานนี้คนที่มองเกมขาดคือ Dell 12 เลยนะเนี่ย

2008/11/28

ทดสอบความเร็ว Browser บนมือถือ

ข่าวเก่าไปนิดแต่ผมคิดว่ายังมีประโยชน์เลยเอามาลงนะครับ เว็บไซต์ Gizmodo ได้ทดสอบการท่องเน็ตบนมือถือรุ่นใหม่ๆ หลายตัว โดยการทดสอบมีทั้งผ่านเครือข่าย 3G และ Wi-Fi ผลลัพธ์แบบละเอียดมีให้อ่านตามลิงก์ ผมคัดมาเฉพาะเกรดสุดท้ายที่ Gizmodo ออกให้มือถือแต่ละตัว

- T-Mobile G1: B+
- BlackBerry Bold: B-/C+
- iPhone: A-
- Nokia E71: B-
- Samsung Epix (IE): F-
- Samsung Epix (Opera): C
- Sprint/Samsung Instinct: C+
- LG Dare: C

สรุปว่า iPhone ยังครองแชมป์ ตามมาด้วย T-Mobile G1 ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเอนจิน WebKit มีส่วนช่วยเยอะในการทดสอบด้านการแสดงผลเว็บไซต์

ที่มา - Gizmodo

2008/11/27

Microsoft เตรียมทำ โทรศัพท์ออกขายเอง กุมภาพันธ์ ปีหน้า

mobile Microsoft 2009

ในที่สุด เรื่องที่หลายๆคนเคยเดาเอาไว้ในใจว่าสักวันหนึ่ง ไมโครซอฟท์อาจจะหันมาผลิต PDA Phone ของตัวเอง หลังจากขายแต่ระบบปฎิบัติการให้กับหลายๆบริษัท ภายใต้ระบบปฎิบัติการ Windows mobile ซึ่งก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เองก็ได้ออกขายเครื่องเล่นเพลงอย่าง Zune ที่ดูแล้วไม่ค่อยจะปรสบความสำเร็จเหนือคู่แข่งอย่าง iPod เท่าไรนัก

ไมโครซอฟท์หันมาทำเครื่อง PDA Phone ของตัวเองแบบนี้ว่าไปแล้วมันก็เหมือนกับผู้บริหารเจ้าของค่ายเพลงอยากออกอัลบั้มเพลงของตัวเองบ้าง เพราะนั่งดูศิลปินในสังกัดอย่าง HTC หรือ ASUS และอีกหลายศิลปิน ทำเครื่องออกขายแล้วโกยรายได้เข้ากระเป๋าไปนักต่อนัก พอมาแบบนี้อากู๋อย่างไมโครซอฟท์แกคงเลยคิดในว่า ตรูเองก็เสียงดี หน้าตาก็พอไปไหว แบบนี้ออกอัลบั้มออกมาขายแข่งด้วยเลยดีไม๊ เพราะศิลปินดาวรุ่งในค่ายอย่าง HTC ยังแอบไปร้องเพลงให้ค่าย Google Music อย่างในรูปแบบ แอนดรอยด์เลย


mobile Microsoft 2009

และที่สำคัญแกคงนั่งทนดู ศิลปินจากค่าย อินดี้ อย่าง Apple Music ที่ทำเครื่อง iPhone ออกขายเอง ทำมันทั้ง Hardware และ Software เอง ซึ่งเมื่อหลายปีก่อน ไมโครซอฟท์เองก็เคยสบประมาททาง Apple เล็กๆ ในงานแห่งหนึ่ง สมัยตอนที่ Apple กำลังชื่นมื่นกับยอดขาย iPod โดยไมโครซอฟท์เคยบอกว่า โอ๊ยยย อะไรกัน iPod อีกหนย่อยทุกอย่างเค้าไปอยู่บน Phone กันหมดแล้ว แต่หารู้ไหมว่าในช่วงเวลานั้น ศิลปิน อินดี้ อย่าง ตี๊ฟ จ๊อบส์ กำลังแอบซุ่มทำ iPhone อยู่เงียบๆ

สำหรับเครื่อง PDA Phone ของไมโครซอฟท์ตัวใหม่นี้ วางเป้าหมายว่าจะเปิดตัวช่วงเดือน กพ ปี 2009 ในงาน 3GSM โดยเครื่องรุ่นใหม่นี้ยังไม่มี Spec ใดๆยืนยันออกมา นอกจาจะใช้ CPU 600 MHz และใช้ ชิพด้านกราฟฟิคของ NVIDIA Tergra APX 2500 ซึ่งจะสามารถดูหนังในแบบ 720p video playback พร้อมกับ 3D technology ที่กินพลังงานที่ค่อนข้างต่ำมาก และจะมีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่ายมากขึ้น แต่น่าจะทำงานบน Windows Mobile เหมือนเดิม และหากให้เดา ก็คงนำเอาลูกเล่นด้านบันเทิงของ Zune มารวมไว้ในเครื่อง PDA Phone ตัวใหม่นี้ แต่งานนี้ขอหละ ! อย่าทำปุ่ม Ctrl+Alt+Del ไว้ละกัน


mobile Microsoft 2009

หน้าก็ลองจับตากันดูครับว่า อากู๋ เจ้าของค่าย MS Music จะหันมาจับไมโครโฟน แผดเสียงร้องเพลงเอง แล้วจะสู้ ศิลปินมาดเซอ อย่าง ตี๊ฟ จ๊อบ จากค่าย Appple Music ได้หรือไม่

ที่มา Mrplam.com

มาบุญครองขายมือถือ Android 18,000 บาท


ตลาดค้าโทรศัพท์มือถือชั้นสี่มาบุญครองคึกคัก โทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์รุ่นแรกของโลกอย่าง G1 วางจำหน่ายแล้วในราคา 18,000 บาท แม่ค้าบอกว่าสามารถโทรระบบจีเอสเอ็มได้ รองรับภาษาไทยเรียบร้อย

G1 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อมแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล โดย T-Mobile USA เป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวที่ได้รับสิทธิพิเศษเพื่อจำหน่าย G1 ในสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ร่วมกับวอล-มาร์ท (Wal-Mart) ร้านค้าปลีกยักษ์ใหญ่ซึ่งเป็นพันธมิตรในการจำหน่ายโทรศัพท์พร้อมสัญญาใช้งานต่อเนื่อง 2 ปี

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ G1 ไม่ต่างจาก iPhone ตรงที่ถูกปลดล็อกและถูก"หิ้ว"มาวางจำหน่ายในตลาดอย่างผิดกฏหมาย สำหรับประเทศไทย G1 ที่วางจำหน่ายในห้างดังอย่างมาบุญครองนั้นถูกตั้งราคาไว้สูงถึง 18,000 บาท เทียบกับราคาขายจริงที่ T-Mobile ตั้งไว้เพียง 179 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5,900 บาท) ขณะที่วอล-มาร์ทประกาศจำหน่าย G1 ในราคา 148.88 เหรียญ (ประมาณ 5,178 บาท)

จากการสอบถามผู้ขาย G1 ที่วางจำหน่ายในมาบุญครองสามารถใส่ซิมเบอร์เดิมแล้วโทรออกได้บนเครือข่ายจีเอสเอ็ม สามารถรองรับภาษาไทยได้อย่างไม่ตกหล่น ระยะเวลารับประกันเครื่องราว 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม ผู้ขายไม่เปิดเผยว่ารับเครื่อง G1 มาจากแหล่งใด เรื่องนี้ผู้รู้รายหนึ่งในวงการไอทีบอกว่าหนึ่งในแหล่ง"หิ้ว"เครื่องมาจำหน่ายในตลาดผิดกฎหมายคือกลุ่มนักเรียนในต่างประเทศที่กำลังเดินทางกลับเมืองไทย นักเรียนกลุ่มนี้จะลงทะเบียนใช้งานบริการข้อมูลกับโอเปอเรเตอร์สหรัฐฯต่อเนื่อง 2 ปีตามกฏหมาย แต่จะผิดสัญญาด้วยการ"เบี้ยว" นำเครื่องกลับเมืองไทยและขาดการติดต่อแบบกระทันหัน แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งผิดกฏหมาย ซึ่งทำให้โอเปอเรเตอร์เสียประโยชน์เพราะไม่สามารถเก็บดอกผลที่ตั้งใจว่าจะเก็บเกี่ยวในระยะเวลานานสองปีจึงจะได้กำไร

ไม่มีรายงานว่า G1 เริ่มเข้ามาจำหน่ายในมาบุญครองตั้งแต่เมื่อใด แต่บทความต่างประเทศบนอินเทอร์เน็ตเริ่มกล่าวถึงการปลดล็อก G1 ให้สามารถโทรออกได้ในระบบจีเอสเอ็มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม ทั้งที่ T-Mobile เพิ่งเริ่มวางจำหน่าย G1 ในวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่บทความแจ้งวิธีการดาวน์โหลดแบบอักษรภาษาไทยลง G1 นั้นเริ่มแพร่หลายราวต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ลักษณะเด่นของ G1 คือหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ คีย์บอร์ดสไลด์ข้าง มี trackball ปุ่มกลมที่ผู้ใช้สามารถดันขึ้นลงซ้ายขวาเพื่อควบคุมเมาส์ ออกแบบมาให้สามารถเปิดใช้บริการอีเมล แผนที่ของกูเกิล และเว็บไซต์ที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเปิดบนโทรศัพท์มือถือได้สะดวก G1 เป็นโทรศัพท์ฝีมือการผลิตของ HTC สัญชาติไต้หวัน ซึ่งประชาสัมพันธ์ของเอชทีซีไทยแลนด์เคยให้ข้อมูลว่า G1 อาจจะไม่ได้เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยเพราะ G1 ทำตลาดในนาม T-Mobile และไม่ได้ใช้ชื่อแบรนด์ HTC

สำหรับความเคลื่อนไหวอื่นๆในโซนโทรศัพท์มือถือของห้างมาบุญครอง หลายร้านค้ามีวางจำหน่าย "iPhone Mini" โทรศัพท์มือถือเลียนแบบไอโฟนจากประเทศจีน หน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว มีฟังก์ชันเขย่าเปลี่ยนเพลง สามารถรับวิทยุ FM รองรับไฟล์ MP3/MP4 ได้ จำหน่ายในราคา 7,900 บาท รับประกัน 6 เดือน


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์

2008/11/26

HTC คาดว่าจะขายเครื่องโทรศัพท์ google สิ้นปีนี้ได้ 1 ล้านเครื่อง

บริษัท HTC (High Tech Computer) ของไต้หวัน คาดหมายว่ายอดจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์กูเกิล G1 ของ T-Mobile จะมีจำนวน 1 ล้านเครื่องเมื่อถึงสิ้นปี 2551 นี้ นอกจากนี้บริษัทยังคาดหวังด้วยว่า จะจำหน่ายเครื่องสมาร์ทโฟน รุ่น Touch Diamond บนวินโดว์ได้ราว 3 ล้านเครื่อง

ก่อนหน้านี้บริษัทเคยตั้งเป้าว่า จะจำหน่ายเครื่อง T-Mobile ได้ราว 500,000 เครื่อง และจะเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 – 2 ล้านเครื่องเมื่อถึงสิ้นปี 2552

บริษัทวิจัย Strategy Analytics รายงานว่า เครื่องสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในสหรัฐในช่วงไตรมาส 4 ปี 2551 คาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 10.5 ล้านเครื่อง และเป็นเครื่องซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (นำทีมโดยบริษัท HTC) มีประมาณ 4% ของตลาดทั้งหมด หรือราว 0.4 ล้านเครื่อง

ทั้งนี้ แอนดรอยด์เข้ามาในตลาดล่าสุด (ตามหลัง BlackBerry, Microsoft, Apple, Palm, Symbian และ Limo) ทว่ากำลังก้าวเข้ามามีบทบาทในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ที่มา blognone.com

2008/11/25

Opera Mini Android มาแล้ว

Opera Mini Android
หลังจากที่มีข่าวลือเรื่องแอปเปิลไม่ยอมรับ Opera Mini เข้าใน App Store แล้วปรากฏว่าทาง Opera ยังไม่ได้ส่งเข้าไปใน App Store แต่อย่างใด วันนี้เอง Opera Mini 4.2 beta ก็มีการเปิดให้ดาวน์โหลดรุ่นสำหรับ Android กันแล้ว

แม้ว่าเบราเซอร์ใน Android จะนับได้ว่าเป็นเบราเซอร์ที่ดีมากอยู่แล้ว แต่ Opera Mini ก็ยังมีประโยชน์มากหากต้องการเข้าถึงเว็บให้เร็วขึ้น เนื่องจากการส่งข้อมูลไปยังเบราเซอร์จะใช้ฟอร์แมต OBML ของทาง Opera เองทำให้ส่งข้อมูลได้เร็วกว่า HTML ตามปรกติ

ที่มา blognone.com,venturebeat.com

Ubuntu 9.04 Jaunty Jackalope Alpha 1

Intrepid Ibex ออกยังไม่ทันไร Jaunty Jackalope หรือถ้าเรียกตามเลขเวอร์ชันคือ 9.04 ก็ออกรุ่นทดสอบแรกออกมาติดๆ

ฟีเจอร์ที่คาดว่าจะทำใน 9.04 ตัวเต็ม

- Mono 2.0
- ปรับปรุงประสิทธิภาพในการบูต
- ปรับปรุงเรื่อง usability

โดยปกติแล้ว Ubuntu ตัวอัลฟ่าแรกๆ ยังเน้นไปในเรื่องการคัดแพกเกจจาก Debian มาใช้เป็นหลัก และจะค่อยๆ ปรับแต่งอุดขัดต่อไปจนออกมาเป็นรุ่นจริง

ตามกำหนดการบอกว่า Jaunty ออกตัวจริงวันท่ี 23 เมษายน 2009 ครับ ถ้าใครอยากเล่นตัวอัลฟ่าต้องโหลด ISO แบบดีวีดีไปลองกันเอง เพราะแบบซีดียังไม่สามารถตัดลงแผ่นเดียวได้


ที่มา blognone.com

ภาพตัวจริงๆของ ASUS P565





ได้ดูภาพเครี่อง ASUS P565 แบบเต็มๆสักทีนะครับหลังจากมีแต่ภาพในแบบ Catalog ออกมาเสียนาน วันนี้เลยขอพาไปเจาะดูทุกภาพทุกมุมของเครื่อง ASUS P565 ซึ่งภาพในช่วงแรกๆดูแล้วไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่พอมาเจอภาพแบบเต็มๆในครั้งนี้ผมว่า ASUS P565 รุ่นใหม่นี้มันก็มีอะไรโดดเด่นน่าสนใจไม่ใช่น้อย



ในปีนี้ ASUS กับ HTC ยังคงเป็นคู่แข่งกันแบบเต็มๆ อย่างกับพรรครัฐบาลกับฝ่ายค้าน ที่ช่วงชิงตำแหน่งกัน ไม่เอาดีกว่าจะพาวกไปเรื่องการเมืองเลยดีกว่า เดี๋ยวมันจะร้อนแรงเกินไป แต่สำหรับ ASUS กับ HTC ในช่วงปลายปีนี้ เท่าที่ผมมองดู ทั้งสองค่ายส่งเครื่อง ประกบกันเป็นโมเดลต่อโมเดล เลย เช่น



- ASUS P552W จับประกบคู่กับ HTC Touch 3G

- ASUS P565 จับประกบคู่กับ HTC Touch Diamond

- ASUS Galaxy จับประกบคู่กับ HTC Touch HD



เท่าที่ผ่านมา เครื่องสองยี่ห้อนี้ แข่งขันกันค่อนข้างแบบเรื่อย มาเรียงๆ ประกบกันมาทั้งเรื่อง Spec และราคา โดยส่วนใหญ่ เครื่องของ ASUS เองแม้จะมี Spec ใกล้เคียงกับของ HTC แต่เรื่องราคานั้น ASUS จะวางราคาที่ต่ำกว่าหน่อย และสำหรับรุ่น P565 รุ่นใหม่นี้ราคาจำหน่ายในเมืองไทยนั้นยังไม่มีกำหนดครับ ในเดือนธันวามคมที่จะถึงนี้ ASUS คงจะเริ่มส่ง P552W ลงตลาดมาก่อน และ P565 น่าจะตามมาชช่วงปลายเดือนธันวาคม หรืออาจจะประมาณต้นเดือน มกราคมในปีหน้า



จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้ที่ทาง ASUS ใช้เป็นจุดเด่นในการนำเสนอก็คือเรื่องของ CPU ระดับ 800 MHz ซึ่งหากดูจาก VDO ที่ผ่านๆมาแล้วจะพบว่ามันทำงานได้รวดเร็วสมตาม Spec และโดยเฉพาะเรื่องการแสดงผลในแบบจอ VGA เครื่องรุ่นนี้ก็มีชิพประมวลผลด้านกราฟฟิคค่อนข้างเร็ว เพราะในต่างประเทศได้จับเอาเครื่อง ASUS P565 กับ HTC Touch Diamond มาประชันเรื่องกราฟฟิคการแสดงผลไปแล้ว ซึ่งผลก็ปรากฎว่าทาง ASUS P565 ก็ทำผลงานได้ดีทีเดียว แม้ทาง HTC Touch Diamond จะมี 2 CPU ก็ตาม



จุดเด่นของ ASUS P565



- Screen: 2.8 “, 480?640 แบบ VGA, 65K, TFT

- ซีพียู Marvel Tavor 800 MHz

- หน่วยความจำ 128 MB RAM,256 MB ROM

- ชิพ GPS แบบ SiRF III

- กล้อง ออโต้โฟกัส 3 ล้าน พิกเซล

- WiFi+BT

- น้ำหนักเพียง 120 กรัม






บริเวณแผ่นหลังเครื่องรุ่นนี้ ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนแผ่นหนัง แต่จริงๆก็คงเป็นพลาสติกขึ้นรูปลายหนังนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะทำให้เครื่องดูสวยและหรูขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องการสัมผัส หยิบใช้ได้ไม่ลื่นมือ และไม่มีรอยนิ้วมือติด เมื่อเทียบกับแผ่นฝาหลังที่เป็นพลาสติกเงาสีดำ ที่เรียกกันว่า สไตล์ ดำเปียโน นั่นเอง






มาพร้อมกับซองหนังลายเดียวกับแผ่นหลังเลยครับ









กล้องด้านหน้าจะย้ายตำแหน่งมาอยู่บริเวณตรงกลางใกล้ๆกับช่องรูลำโพงหูฟัง ซึ่งว่ากันว่าจะช่วยให้การสนทนาแบบ Vido Call นั้นมีมุมมองที่ดีขึ้น เพราะหากเวลาที่กล้องอยู่ด้านริมด้านใดด้านหนึ่ง เวลาคุยมันเหมือนกับเห็นภาพมุมเอียงๆ แต่ก็อย่าไปซีเรียสเลยครับในเมื่อบ้ายเรายังไม่มี 3G ใช้เลย กว่าจะได้ใช้สงสัยเครื่องรุ่นนี้ตกรุ่นไปแล้วแน่เลย






บริเวณปุ่มด้านล่างทำออกแนวเรียบๆแต่ก็ยังไม่ลืมที่จะทำปุ่มแบบ D Pad 5 ทิศทางมาให้ด้วย ก่อนหน้านี้ ASUS เคยหลงทางทำเครื่องแบบไม่มีปุ่ม 5 ทิศทางด้านหน้าปรากฎว่าผู้ใช้บ่นกันอุบว่าไม่ค่อยถนัดเท่าไรนัก หากจะไม่มีแบบ 5 ทิศทางแบบ D Pad อย่างน้อยก็ต้องมีแบบ Touch Sensor มาให้เพราะ Windows Mobile 5 มันยังเป็นต้องใช้ปุ่มแบบนี้อยู่ดี ส่วนปุ่ม Softkey ในรุ่นนี้ไม่มีมาให้ครับ






บริเวณด้านข้างทางซ้ายมือมาแบบเดียวกับ P552W คือมีช่องเสียบ GPS ภายนอก และปุ่มปรับระดับเสียง






ส่วนทางขวาก็ตามมาตราฐาน ASUS เลยคือมีปุ่ม Hold ด้านบน และปุ่มกล้องด้านล่าง จำนวนปุ่มและสไตล์ตำแหน่งการวางยังคงเหมือนกับ P552W






ส่วนด้านล่างเป็น Mini USB ครับ และรู Reset






ด้านบนดูมีลูกเล่นสวยขึ้นเยอะ เป็นลายตะแกรงคล้ายช่องระบายลมในรถสปอร์ตในส่วนด้านบนจะมีเพียงปุ่ม เปิดปิด และช่องเสียบ Stylus ด้านบน






แบตเตอรี่ 1300 mAh จะรอดหรือเปล่าต้องรอดูกัน แต่ผมว่าน่าจะรอดนะ ส่วนช่องใส่ SIM จะอยู่ใต้แบตเตอรี่






แผ่นหลังลำโพงซ่อนสนิท แนบเนียนดีครับ






โปรแกรมกล้อง






สำหรับอินเตอร์เฟสใหม่ของ ASUS ในเครื่องรุ่นนี้จะมีชื่อว่า ASUS Glide 1.0 เป็นอินเตอร์เฟสในรูปแบบการใช้นิ้วสั่งการ ซึ่งจะทำงานร่วมกับโปรแกรมอีกๆหลายตัว ซึ่งให้มากับเครื่องรุ่นนี้









สรุปแล้วเครื่อง ASUS P565 รุ่นใหม่นี้ดูแล้วก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียว เพียงแต่ว่ารอเรื่องราคาเท่านั้นหละครับว่ามันจะจบกันที่เท่าไร แต่หากให้ผมเดาในใจงานนี้มีสองกลางๆแน่เลย เพราะว่าจอ VGA และ CPU เร็วขนาดนี้ ซึ่งถ้าเป็นราคา สองกลางๆมันก็จะไปชนกับ Samsung Omnia อีกรุ่น แต่ Omnia ไม่ใช่ VGA และ CPU ช้ากว่า แต่ Omnia จะได้เปรียบตรงเรื่องหน้าจอยาวกว่า และ Memory 8-16 GB



ที่มา MrPalm.com

2008/11/24

อวดโฉมรถอนาคต50ปี

เว๊บไซต์ของฟอร์บส์ออโต้ ได้รวบรวมภาพร่างของรถยนต์ในอนาคต สำหรับอีก 50 ปีข้างหน้าไว้ ซึ่งเป็นแบบร่างที่ค่ายรถยักษ์ใหญ่ต่างออกแบบและดีไซน์ขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ในอนาคตยานพาหนะจะมีรูปร่างที่เป็นทรงเรียวสูงขึ้น สามารถทำหน้าที่ได้หลากหลาย รวมทั้งพาเราไปสู่จุดหมายโดยไม่ต้องควบคุมเอง เป็นยานยนต์ที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจำพวกพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานนาโนหรือพลังงานจากการขยับกล้ามเนื้อ


ต่อไปนี้คือ แบบร่างของรถยนต์ในอนาคต ที่มีการเปิดเผยให้ประชาชนเห็น บางโมเดลสามารถคว้ารางวัลทางด้านดีไซน์จากไอเดียและคอนเซปต์ที่ล้ำสมัย แต่จับต้องได้ และไม่ไกลเกินไปที่วิศวกรยานยนต์จะพัฒนาให้แบบร่างในแผ่นกระดาษ สามารถมาโลดแล่นบนท้องถนนได้ใน ค.ศ.2057


future car56


โฟล์คสวาเก้น สลิปสตรีม (Slipstream) ที่คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดรายการ L.A. Auto Show Design Challenge ในงานแอลเอ ออโต้โชว์ 2007 เมื่อเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา จากดีไซน์รถทรงหยดน้ำตาให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายมนุษย์มากที่สุด มีเซ็นเซอร์หลีกเลี่ยงจราจรติดขัด วัสดุมีความยืดหยุ่นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พื้นที่บนถนนและซอกแซกไปในที่แคบได้ วิ่งบนถนนที่ถูกยกขึ้นสูง ความกว้างพอดีตัวรถ เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้มนุษย์หนีความโกลาหลของถนนเบื้องล่าง แต่ในพื้นที่กว้างก็สามารถทำความเร็วสูงได้ในแบบนอนขับ


future car55


future car54


ออดี้ เวอชัล ควอตโตร (Virtuea Quattro) รถที่นั่งเดี่ยว เครื่องยนต์อัตโนมัติ ตัวรถทำด้วยโลหะและสามารถรับสัมผัสจากรถคันอื่นๆ เมื่อวิ่งไปในทางเดียวกัน ด้านข้างตัวรถสามารถสร้างข้อความและสัญลักษณ์ที่เป็นของเจ้าของเองเปลี่ยนไปมาได้ตลอด


future car53


จีเอ็ม-ออนสตาร์ แอนท์ (Onstar Ant) ค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส คิดจะสร้างกล้ามเนื้อเทียมทรงเรขาคณิตสำหรับทำตัวถังรถ ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างได้ไม่จำกัด และสามารถสื่อสารกับรถคันอื่นๆ ได้


future car52


future car50


ฮอนด้า หนึ่งยกกำลังสี่ (One to the Power of Four) ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดระหว่างไฟฟ้าและเซลล์แสงอาทิตย์ที่เป็นหลังคาของตัวรถ และผู้โดยสารทั้ง 4 คน ในรถ สามารถแยกไปคนละทางเมื่อถึงจุดหมาย โดยแบ่งรถออกเป็น 4 คัน ในระดับโมเลกุล เหมาะสำหรับครอบครัวขยายอย่างมาก (ฮา)


future car


future car9


มาสด้า โมโตนาริ อาร์เอ็กซ์ (Motonari RX) นาโนเซลล์กว่าล้าน มารวมกันเป็นชุดสูท ที่สวมใส่แล้วสามารถบังคับให้ชุดสูทที่เสมือนรถเคลื่อนที่ไปด้วยพลังจิต โดยความคิดจะส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้รถวิ่งผ่านทางแผงรับสัญญาณที่แขนทั้ง 2 ข้าง เมื่อเอี้ยวตัวรถก็เลี้ยว วิ่งได้โดยไม่ต้องมีล้อ ว้าว!!!


future car8


future car7


เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซิลเวอร์โฟลว (SilverFlow) รถยนต์ที่เกิดจากการรวมกันของโลหะระดับนาโน ที่สามารถเปลี่ยนรูปร่างหรือสีสันได้ตามใจเจ้าของ ความใหญ่เล็กของตัวรถขึ้นอยู่กับกำลังเงินในการซื้อโลหะนาโนเหล่านั้นมา เมื่อรถเกิดชนเสียหายก็สามารถซ่อมแซมตัวเองได้


future car6


future car5


นิสสัน วันวัน (OneOne) รถหุ่นยนต์ ที่เป็นทั้งสัตว์เลี้ยงและคนในครอบครัว นำทางด้วยระบบจีพีเอส ทำความสะอาดง่าย สามารถส่งบุตรหลานคุณไปโรงเรียนแทนคุณได้แบบหายห่วง


future car4


future car3


โตโยต้า ไบโมบิล เมคคา (Biomobile Mecha) เป็นยานยนต์แห่งอนาคต ที่พลังงานมาจากการดูดเอามลพิษในอากาศ (คาดว่าในค.ศ. 2057 จะมีมาก) มาเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อน ล้อทั้งสี่เกิดจากเลเซอร์ระดับนาโนยิงออกมา ตัวรถสามารถวิ่งขึ้นตึกในทางดิ่ง


future car2


future car1


ค.ศ. 2057 รถก็ยังเป็นรถ ยังไม่สามารถบินได้ แต่ก็ทำอะไรเจ๋งๆ ได้มากมายเหลือเกิน



ที่มา mthai.com

หน้าตาและลูกเล่นของ iPhone เวอร์ชั่นใหม่



หน้าตาและลูกเล่นของ iPhone เวอร์ชั่นใหม่ เป็นรุ่นที่ 2 ที่มาให้ชม

หลังจาก iPhone ออกขายไม่ถึงปี ยอดขายของ iPhone คงไม่ต้องบอกก็พอเดาได้ครับว่ามันถล่มทลายแค่ไหน ไม่เพียงแต่ขายในประเทศที่ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นทางก าร แต่ในประเทศอื่นๆทั่วโลกก็ hack กันแบบกระจุยกระจาย จนวางขายกันทั่วโลก กระแสของ iPhone ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของ ตา จ๊อบจริงๆ เพราะหากลองนึกๆดู นี่แค่เวอร์ชั่นแรกของ iPhone ยังทำได้ขนาดนี้แล้ว iPhone รุ่นใหม่มันจะพิสดารขนาดไหน นวัตกรรมใหม่ของทาง Apple ครั้งนี้ไม่หยุดแต่เพียงเวอร์ชั่นแรกนี้เท่านั้น แน่ๆ
ในวันนี้มีข่าวลือ โดยอ้างจากข้อมูลของ สิทธิบัตรอันใหม่ของทาง Apple ซึ่ง iPhone ในเวอรืชั่นใหม่ที่มีข่าวหลุดออกมานั้น เครื่องรุ่นใหม่จะเป็นรุ่นในรูปแบบ ฝาพับครับ หรือ Clamshell โดยเครื่อง iPhone รุ่นใหม่นั้นจะแยกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนหน้าจอ และส่วนที่เป็นฝาปิด แบบ transparent ซึ่งจะเป็นฝาปิดแบบใสๆ มีโปรแกรมควบคุมการทำงานที่ชื่อว่า Dual sided trackpad โดยทั้งสองส่วนนี้ ยังคงรองรับการทำงานแบบ Touch Screen จะเขียนบนฝาพับที่เป็นใสๆนี้ก็ได้ทั้งสองฝั่ง ซึ่งหากจะว่าไปแล้ว ในส่วนฝาใสๆนี้ก็จะกลายเป็นเหมือน Touch Pad ที่เราได้พอเห็นรูปแบบไปแล้วใน Mac Book Air ซึ่งก็รองรับการทำงานแบบ Multi Touch เหมือนเดิม เช่นในส่วนของหน้าจอ หากแสดงรูปถ่ายอยู่ เราก็สามารถใช้นิ้วจิ้มไปสองนิ้วบน ส่วนฝาพับใสๆนี้แล้ถ่างนิ้วออกเพื่อ Zoom ภาพได้
และเมื่อปิดฝาพับนี้ ในส่วนฝาก็จะคลุมหน้าจอทั้งหมดพอดี ซึ่งก็ยังไม่ทราบเหมือนกันว่า ฝานี้จะใหญ่แค่ไหน หากลองนึกๆดูก็คงจะคล้ายพวกเครื่อง Sony Clie สมัยก่อนที่มีฝาใสๆปิดหน้าจอทั้งหมด แต่ใน iPhone 2 นี้ ฝามันทำหน้าที่เป็น Track Pad ไปด้วยในตัวนั่นเอง

สำหรับการทำงานของเจ้าฝาพับมหัศจรรย์นี้ มันก็มาแก้ปัญหาในเรื่องการ input ข้อมูลให้ง่ายขึ้นเพราะปกติ iPhone รุ่นแรกนั้น การพิมพ์ทำได้ค่อนข้างลำบาก หากนิ้วใหย่หน่อยก็จะจิ้ม Keyboard แบบผิดๆถูกๆ แต่ในเวอร์ชั่น 2 ของ iPhone เราสามารถเขียนได้เลยครับ คล้ายกับใช้ Stylus เขียน Grafiti บนเครื่อง PDA ทั่วไป แต่ใน iPhone เราจะใช้นิ้วแทน Stylus หลักการทำงาน เช่น
1. หากเปิดเครื่องออกมา แล้วต้องการโทรออก ก็เพียงแต่เขียนตัวเลขบนส่วนของ Track Pad ได้เลย
2. หากต้องการโทรออกในรูปแบบปกติ ก็สามารถเลือกแสดงตัวเลขเพื่อโทรออกบนหน้าจอฝั่ง Track pad ซึ่งสามารถแสดงตัวเลข หรือสัญลักษณ์รวมทั้งการ input ในรูปแบบ T9 keypad
3. การใช้งานด้านมัลติมิเดีย การทำงานจะคล้ายๆ iPod เราสามารถปิดฝาเครื่องแล้วกดควบคุม จากฝาด้านนอกกก็ได้ ตามคอนเว็บที่ว่า Dual sided trackpad ซึ่งเขียนบนฝาได้ทั้งสองฝั่ง
4. ในเวอร์ชั่นหน้า หากดูตามในภาพที่เขา สเก็ตขึ้นมาจะเห็นว่ามันมี FM radio ด้วยนะครับ
( ภาพการทำงานของการใช้ในรูปแบบ iPod )
สามารถปิดฝาแล้วควบคุมการทำงานจากฝาด้านนอก โดยสามารถปรับ Volume และควบคุมการทำงานการฟังเพลงได้ทั้งหมด

สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone รุ่นใหม่นี้ดูท่าเหมือนจะมีโอกาสเป็นจริงค่อนข้างสูง เพราะมีหลักฐานยืนยันหลายอย่างโดยเฉพาะ Patent application สำหรับภาพที่นำมาให้ชมนั้นเป็นภาพจำลอง จากข้อมูลใน Patent อีกที สำหรับการออกจำหน่ายในเวอร์ชั่น 2 นี้ อย่างเร็วสุดก็น่าจะเป็นเดือนกันยายนปีนี้ อาจจะได้มีโอกาสเห็นตัวจริง

สำหรับภาพหลุดตัวจริงก่อนออกจำหน่ายจริงนั้น ผมบอกได้เลยครับว่ายากส์!!! แทบจะหมดสิทธิ์ เพราะ Apple เป็นบริษัทที่ไม่เคยปล่อยภาพหลุดออกมาให้ได้ชมกันก่อ น เราจะมีโอกาสได้เห็นเครื่องจริงก็ต่อเมื่อ สตีฟ จ๊อบส์ ควักเจ้าเครื่องตัวใหม่นี้ออกมาจากกระเป๋าเขานั่นเอง





ที่มา yenta4.com

“Asus Notebook ไม้ไผ่” ตัวแรกของโลก ดีไซน์เพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม

asus bamboo
ขอนำเสนอโน๊ตบุ๊กอินเทรนด์อิงกระแสลดโลกร้อน “โน้ตบุ๊กไม้ไผ่” (ASUS Bamboo Notebook)
บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก พีดีเอ โฟนและอีอีอี พีซี ขอนำเสนอโน๊ตบุ๊กอินเทรนด์อิงกระแสลดโลกร้อน “โน้ตบุ๊กไม้ไผ่” (ASUS Bamboo Notebook) เป็นครั้งแรกของโลกที่ผลิตโน้ตบุ๊กจากไม้ไผ่ ผสมผสานความสวยงามและความประณีตของงานประดิษฐ์จากไม้ไผ่ รุ่น U6 ขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม ราคา 79,900 บาท (ราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มาพร้อม Intel Core2 Duo Processors และ DDRII RAM ซึ่งช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ 35 – 70 เปอร์เซ็นต์ ระบบ Super Hybrid Engine (SHE) ระบบประหยัดพลังงานโดยผสมผสานระหว่างซอฟแวร์และฮาร์ตแวร์ของอัสซุส นอกจากนั้น SHE เป็นระบบที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 12.30 กิโลกรัมต่อปีต่อโน้ตบุ๊กไม้ไผ่หนึ่งตัว พบกับโน้ตบุ๊กไม้ไผ่ได้ปลายเดือนธันวาคมนี้ ตามร้านตัวแทนจำหน่ายอัสซุสทั่วไป

Tabula Rasa ปิดให้บริการหลัง Richard Garriott ลาออก

หลังจาก Richard Garriott ผู้ให้กำเนิดเกมซีรีส์ Ultima และเกมล่าสุดคือ Tabula Rasa ประกาศลาออกจาก NCsoft เกมซึ่งมีชื่อของเขานำหน้าอย่าง Richard Garriott’s Tabula Rasa ก็ดำเนินรอยตามผู้ให้กำเนิดไปด้วยเช่นกัน

เว็บไซต์ของ Tabula Rasa ระบุว่าจะยุติการให้บริการลงในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) โดยจะเปิดให้เล่นฟรีในช่วงสุดท้ายของเกมตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2552 (ค.ศ. 2009) เป็นต้นไป

Tabula Rasa เป็นเกม MMO แนวไซไฟอวกาศที่ NCsoft คาดหวังไว้มาก แต่ผลตอบรับและรายได้ไม่ดีเท่าที่ควร จนเมื่อ General British (Richard Garriott) ประกาศลาออก อนาคตของเกมก็สั่นคลอนและปิดตัวลงตามความคาดหมาย รวมมีอายุการให้บริการเพียง 15 เดือน

2008/11/22

ASUS ประกาศอย่างเป็นทางการกับเครื่อง P565 พีดีเอโฟนที่ ทำงานเร็วที่สุดในโลก!


ASUS P565



และแล้วข้อมูลอย่างเป็นทางการของเครื่องรุ่นล่าสุดในปีนี้ของ ASUS ก็ออกมาบนเว็บไซด์ ASUS เป็นที่เรียบร้อยแล้วกับเครื่อง PDA Phone รุ่นล่าสุดที่ทาง ASUS ออกมายืนยันว่ามันเป็น PDA Phone ที่เร็วที่สุดในโลกในเวลานี้ ก็ไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าจะเปิดปุ๊บติดปั๊บ อะไรประมาณนั้นเลยหรือเปล่า สำหรับ ASUS P565 เองนั้นก็เป็นข่าวอย่างต่อเนื่องมาเกือบจะสามเดือนแล้ว และแล้วมันก็ถูกประกาศอย่างเป็นทางการ ส่วนเรื่องของราคาและ การจัดจำหน่ายยังคงไม่มีประกาศออกมานะครับ



นอกจาก ASUS P565 แล้วจริงๆทาง ASUS เองก็จะมีเครื่อง PDA Phone รุ่นใหญ่กว่า P565 ตามออกมาสมทบอีกด้วย แต่ทว่า เครื่องรุ่นใหญ่ของ ASUS ซึ่งในตอนนี้มีชื่อ Code Name ว่า Galaxy5 นั้น จะยังคงใช้ CPU ระดับที่ความเร็วประมาณ 500 MHz เท่านั้นเอง



นอกจากเรื่อง CPU ที่ทำงานได้รวดเร็วแล้ว ASUS P565 รุ่นนี้ยังมีอีกหลายส่วนที่เป็นจุดแข็ง เช่น



- Screen: 2.8 “, 480x640 แบบ VGA, 65K, TFT

- ซีพียู Marvel Tavor 800 MHz

- หน่วยความจำ 128 MB RAM,256 MB ROM

- ชิพ GPS แบบ SiRF III

- กล้อง ออโต้โฟกัส 3 ล้าน พิกเซล

- WiFi+BT

- น้ำหนักเพียง 120 กรัม



ASUS P565



ASUS P565



เครื่องรุ่น ASUS P565 นี้ หากจะเทียบ Spec แล้วน่าจะเอามาชนกับ HTC รุ่นพวก Touch Pro หรือ Touch Diamond ครับ เพราะว่าจุดเด่นที่คล้ายๆกันก็คือ CPU ความเร็วสูง และ หน้าจอ เป็น VGA พร้อมกับ GPS ในตัว ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องที่ให้มาค่อนข้างครบเลยหละ กล้องในเครื่องรุ่นนี้จะใช้กล้องความละเอียดที่ 3 ล้านพิกเซล แต่ก็มี Auto Focus ด้วย จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา กล้องของ ASUS เท่าที่ผ่านๆมาหลายๆรุ่น จะมีคุณภาพค่อนข้างดีเลยหละครับ และนอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเทียบประสิทธิภาพความเร็วระหว่าง ASUS P565 รุ่นใหม่นี้กับ HTC Touch Diamond ออกมาเปรียบเทียบให้ดูกันอีกด้วย หากดูจากกราฟ เห็นความเร็วก็น่าทึ่งเหมือนกัน



ASUS P565



ASUS P565



สำหรับอินเตอร์เฟสใหม่ของ ASUS ในเครื่องรุ่นนี้จะมีชื่อว่า ASUS Glide 1.0 เป็นอินเตอร์เฟสในรูปแบบการใช้นิ้วสั่งการ ซึ่งจะทำงานร่วมกับโปรแกรมอีกๆหลายตัว ซึ่งให้มากับเครื่องรุ่นนี้ และเรื่องชิพของ GPS ยังคงเป็น SirfIII ที่หลายๆคนยังเชื่อว่ามันยังแจ๋วสุดๆ รับสัญญาณได้ไว แม่นยำ



ASUS P565



อย่างไรก็ตามจุดที่น่าสังเกตของเครื่องรุ่นนี้ก็มีหลายอย่างให้น่าคิดเหมือนกันนะครับ เรื่องแรกก็คือเรื่องของ แบตเตอรี่ขนาด 1300 มิลลิแอมป์ มันจะเครื่องขนาดความเร็ว 800 MHz ไปรอดได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งเครื่องรุ่นนี้ก็มีขนาดค่อนข้างบางมาก เพราะฉะนั้นเรื่องของขนาดแบตเตอรี่เลยต้องเล็กตามไปด้วย ส่วน USB ในรุ่นนี้จะเป็น V1.1 นะครับ



เรื่องการออกแบบอย่างที่เคยบอกไปผมว่าหุ่นมันคล้ายๆกับ HP h4150 รุ่นเมื่อก่อนเลยหละ ลองดูภาพเปรียบเทียบดูสิครับ ผมว่ามันก็คล้ายๆกันเลยนะ จริงๆหุ่นของ h4150 รุ่นนี้ก็เป็นรุ่นยอดฮิตสมัยก่อนอยู่นาน ผมเองก็ชอบหุ่น HP รุ่นนี้มาก ว่าแต่ทำไมเดี๋ยวนี้ HP เงียบจังเลย แต่ก็มีข่าวมาแล้วว่าเดือน ธันวาคมนี้ทาง HP เองก็เตรียมพลิกโฉมเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ที่เป็น PDA Phoen อีกสองรุ่นเช่นกัน



ASUS P565

Radiolicious จับวิทยุเอเอ็ม/เอฟเอ็ม ใส่เครื่องไอโฟน

ท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างเทคโนโลยีวิทยุกับการใช้งานต่างๆบนพื้นฐานอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าเมื่อเร็วๆนี้ “Radiolicious” เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์ชุดหนึ่งที่พัฒนาขึ้นโดย MySimBook.com ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและผู้ทำการตลาดผลิตภัณฑ์โฆษณา มีบริษัท Global Security Systems หรือที่รู้จักกันดีในวงการอุตสาหกรรมวิทยุคือ เทคโนโลยี FM Alert

Radiolicious กำลังจะสร้างโมเดลธุรกิจหนึ่งที่คาดว่าจะเป็นที่สนใจของบรรดาผู้ประกอบการด้านบรอดคาสต์ ทั้งนี้ Radiolicious เป็นเพลเยอร์ที่ผู้ใช้เครื่องไอโฟนดาวน์โหลดได้ฟรี

เมื่อมี Raiolicious อยู่ในเครื่องสื่อสารไร้สายต่างๆแล้วจะทำให้สามารถสตรีมเนื้อหา (content) ด้านเสียงและเว็บจากสถานีวิทยุเอเอ็ม/เอฟเอ็มต่างๆที่เข้าร่วมบริการโดยผู้ใช้เครื่องไอโฟนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

Seadragon Ajax - Deep Zoom ไม่ต้องrพึ่ง Silverlight แล้ว

Microsoft Live Labs ปล่อยของเล่นมาให้เล่นกันอีกแล้วครับ คราวนี้เป็น Deep Zoom ที่พัฒนามาจากเทคโนโลยี Seadragon ที่ Microsoft ซื้อมาและพ่วงมากับ Silverlight ได้สักพักแล้วครับ แต่ว่าคราวนี้มาเป็น Seadragon Ajax คือเป็น Deep Zoom แบบไม่ต้องมี Silverlight ครับ คือใช้ Javascript เท่านั้น

ผมว่าไม่ต้องอารัมภบทมากว่ามันดียังไง ลองเข้าไปเล่น Sample ดูได้ที่หน้าลิงค์เลยครับลองซูมเข้าไปดูตรงแถวๆ ที่เป็นข้อความดูครับ

http://livelabs.com/seadragon-ajax/

2008/11/21

โทรศัพท์มือถือในอนาคต

โนเกียร่วมกับมาหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ เผยโฉม Morph คอนเซ็ปต์โฟนในอนาคต ที่ใช้วัสดุยืดหยุ่นได้ สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงให้เข้ากับรูปร่างของผู้ใช้ หรือจะเปลี่ยนสีลวดลายได้ตามใจชอบ มันจึงเป็นทั้งเครื่องประดับและโทรศัพท์ในตัว โดยใช้เทคโนโลยีนาโน ปกป้องตัวเครื่องจากฝุ่นละออง และของเหลว มีการติดเซนเซอร์ช่วยตรวจจับสารเคมี หรือเชื้อโรคที่คุณไม่อยากเอามันเข้ามาไว้ในร่างกาย โดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในอนาคตได้มากยิ่งขึ้น ถึงแม้จะเป็นเพียงแนวคิดแต่มนุษย์ในอนาคตต้องได้ใช้งานมันอย่างแน่นอน

Nokia Morph - โนเกีย


Nokia Morph - โนเกีย


Nokia Morph - โนเกีย


Nokia Morph - โนเกีย