2009/02/28

Yahoo! ปิดบริการ Briefcase 30 มีนานี้

บริการ Briefcase ของ Yahoo! เป็นบริการรับฝากไฟล์ แต่จะปิดให้บริการในวันที่ 30 มีนาคมนี้แล้ว และจะลบไฟล์ที่มีอยู่ทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่า Yahoo! Mail และ Flickr เป็นบริการที่ให้พื้นที่ฝากไฟล์ที่มากกว่าเนื่องจากไม่จำกัดพื้นที่

สาเหตุที่ปิดตัวลงเนื่องจากมีผู้ใช้บริการนี้น้อยลง และเพื่อทีมงานจะได้ให้ความสำคัญกับบริการอื่น ๆ ที่มีคนใช้มากกว่า

แต่ไอเดียเรื่องการเก็บไฟล์ออนไลน์ ตอนนี้ก็ยังเป็นที่สนใจอยู่ในหลาย ๆ บริษัท อย่าง Microsoft ก็ได้เปิดบริการ Live Mesh และ Google เองก็คาดว่าจะมี GDrive ในอนาคต

ผมเองเคยใช้ Briefcase เมื่อหลายปีก่อน และลืมมันไปแล้วจนวันนี้ ที่ได้รับเมล์ของทาง Yahoo! แจ้งมาว่าจะปิดบริการนี้แล้วนะ

ที่มา: PCWorld

2009/02/27

แกะกล่องลอง HTC Touch Cruise รุ่นใหม่กันหน่อย


ผมเพิ่งได้เครื่อง HTC Touch Cruise มาทดสอบไม่นานนี้เอง แต่เพิ่งจะมีเวลามาแกะกล่องลองใช้งานเลยขอนำภาพบรรยากาศความรู้สึกแรกสัมผัสเครื่องรุ่นนี้มาฝากให้ชมกัน สำหรับ HTC Touch Cruise รุ่นใหม่นี้หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมชื่อมันจึงไปซ้ำกับเครื่องรุ่นก่อนหน้านี้ที่ชื่อเดียวกันเป๊ะ สำหรับสาเหตุที่ชื่อเหมือนกันนั้น ก็เพราะว่า .... ผมเองก็ไม่ทราบครับ ....

แต่ชื่อแม้จะเหมือนกันแต่ลูกเล่นมันก็ต่างกันอยู่ดี สำหรับเครื่องรุ่นนี้ลูกเล่นและ Spec จะค่อนข้างคล้ายๆกับ HTC Touch 3G แต่หน้าตาต่างกันและมีลูกเล่นบางส่วนที่ต่างกัน เพราะในเครื่อง HTC Touch Cruise ตัวใหม่จะมีลูกเล่นที่เป็นจุดขายก็คือ Foot Print หรือการแกะรอยเท้าจากสถานที่ที่เราเคยไปมาแล้วนั่นเอง

ง่ายๆก็คือว่า เจ้า Foot Print จะเป็นการถ่ายภาพด้วยกล้องที่ Link เข้ากับโปรแกรม GPS ในตัวเครื่องที่จะสามารถเก็บบันทึกภาพถ่ายพร้อมสถานที่ที่เราเคยไปมาแล้ว เผื่อวันหลังจะกลับไปใหม่ก็เพียงแต่เปิดภาพแล้วสั่งเครื่องให้นำทางไปได้เลย




อุปกรณ์ที่ผมแกะกล่องมาปุ๊บเจอเลยก็คือ อุปกรณ์มาตราฐาน เช่น สายชาร์จ / หูฟัง/ แท่นวาง ติดกระจก และ หม้อแปลง ซึ่งเครื่องรุ่นนี้เค้าเน้นที่เรื่องขาวางติดกระจกหน้ารถด้วย มันเป็นอีกลูกเล่นที่ทาง HTC เค้าใช้เป็นจุดขายในเครื่องรุ่นนี้



แท่นวางติดกระจกนั้นดูแข็งแรงมั่นคงคุณภาพดีกว่าที่แถมมาให้ในเครื่องรุ่นก่อน ๆ จุดเด่นของเครื่อง HTC Touch Cruise ก็คือเวลาวางเครื่องเข้ากับแท่นวางปุ๊ป หน้าจอเครื่องจะเปลี่ยนเป็นโหมดการนำทางและ Foot Print ให้เองอัตโนมัติ ซึ่งต่างกับเครื่องรุ่นอื่นๆที่ต้องมาปรับเปลี่ยนเอง



หน้าจอเวลาวางเครื่องเข้ากับแท่นจะมีเมนูดังในภาพบนโชว์ให้เห็น แต่ผมว่าไอคอนรูป Foot Print นี่มันแปลกๆดู ขัดๆสายตายังไงชอบกลนะ อิอิ ฝรั่งไม่ค่อยถือ แต่คนไทยเห็นแล้วคงรู้สึกแปลกๆ แต่ก็เอาหน่าๆๆๆ อย่าไปคิดมากมันก็แค่สัญลักษณ์เท่านั้น เพื่อสื่อว่ามันเป็นเมนูเรื่องของ Foot Print ก็เท่านั้นเอง อย่าไปคิดมาก




โปรแกรมแผนที่ที่ให้มาในเครื่องรุ่นนี้เวลาใช้งาน Foot Print มันจะไป Link เข้ากับโปรแกรม Papago x3  ชื่อโปรแกรมนี้ทางไต้หวันรู้จักดีแต่เมืองไทยยังไม่ค่อยรู้จัก Papago เท่าไรนัก ผมเรียกโปรแกรมนี้ว่า ปับป๊าไปทำงาน  โปรแกรมนี้เป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยครับ




หน้าตาของ HTC Touch Cruise แรกสัมผัสของผม ผมว่าตัวเครื่องน้ำหนักเบาดีครับ ตัวเครื่องดูสวยงามน่ารัก มนๆกลมๆ เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ตัวเครื่องไม่หนาจนเกินไปนัก พกพาได้สะดวกดี หน้าจอแบนราบเรียบไม่มีขอบหน้าจอให้สะดุดนิ้ว




ด้านข้างทางซ้ายมือโล่งๆ ตัดปุ่มออกไปหมดเหลือแต่ปุ่มปรับเสียงเท่านั้น




ทางขวาปกติจะมีปุ่มกล้อง แต่ในเครื่องรุ่นนี้ตัดออกหมดเน้นความโล่งและเรียบๆ



ช่อง Connector หูฟังและการ Sync รวมทั้ง ชาร์จไฟ ยังเป็นแบบ Mini USB เหมือนเดิม




หน้าตาโปรแกรม Fott Print ครับพอดีผมยังไม่ได้ถ่ายภาพใดๆ ปกติจะมีภาพให้เลือก




ปุ่มด้านหน้ามีเพียง 4 ปุ่มกด และปุ่ม 5 ทิศทางที่สามารถหมุนแบบ Jog Wheel รอบๆได้ ปุ่ม Windows โดนตัดออกไปปกติจะเป็น โลโกรูปธง Windows แต่จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Navigator กับปุ่ม Foot Print แทน




ในส่วนที่บอกว่าเสียบแท่นแล้วปรับหน้าจอเข้าโหมดนำทางเองนั้นมันสามารถเลือกได้ว่าจะเอาแบบอัตโนมัติหรือไม่




แผนที่ PapaGo รุ่นใหม่มีภาพ 3มิติด้วย ในภาพเป็นอนุเสารย์ ชัยสมรภูมิ ใน กทม นี่เอง ภาพ 3 มิติจะมีเฉพาะบางสถานที่สำคัญ เมนูต่างๆเป็นภาษไทย

นอกจาก Papago X3 ที่แถมมาหใล้วยังมี Garmin Mobile XT  แถมมาให้อีกด้วยอีกโปรแกรม แต่สำหรับการทำงานร่วมกับ Foot Print นั้นเครื่องจะเรียกหาของ Papago X3 เป็นหลัก แต่การใช้งานจริงเราสามารถเลือกใช้ Garmin Mobile XT ได้ตามปกติครับ




ผมยังไม่ได้ลองโปรแกรมนำทางตัวนี้นะครับแต่เท่าที่ดูก็น่าจะพอใช้ได้







ราคาเครื่องตัวนี้ถือว่า HTC ตั้งราคาถูกกว่าปกติ เพระเปิดตัวมาที่ 21900 บาทเท่านั้นให้อุปกรณ์ครบ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจตัวหนึ่งในเวลานี้




กล้อง 3.2 ล้านไม่มี Auto Focus ไม่มี Flash คุณภาพของภาพถ่ายผมยังไม่ได้ลองแต่เข้าใจว่าไม่น่าต่างกับตัว Tocuh 3G เท่าไรนัก




ฝาหลังเครื่องของ HTC รุ่นใหม่ๆส่วนมากไม่มีการ แบบสไลด์อีกแล้วเพราะกันสไลด์บ่อยๆเดี๋ยวจะหลวมเลยใช้แบบแกะเอาแทน




น่าจับตีก้นสัก สามสี่ป๊าบ เด็กไม่ดี ชอบเอาปุ่ม Reset มาไว้ด้านใน เวลาจะ Reset ต้องแกะฝาทุกทีเลย มันอึดอัดรู้ไม๊



เท่าที่ผมลองแกะกล่องมาลองทดสอบใช้งานคร่าวๆลองโทรไปหาเพื่อนๆดู คุณภาพเสียงสุดยอดครับ ไม่ได้โม้ เสียงสนทนาชัดแจ๋วมาก ชัดกว่า ไอโฟนอีก เคลียและใสมาก




นี่แหละครับขาตั้งที่บอกว่าแข็งแรงมั่นคงมาก ส่วนการใช้งานเต็มๆเดี๋ยวผมขอเวลาไปทดสอบแล้วจะมาเขียนรีวิวเล่าให้ฟังนะครับ



ที่มา Mrpalm.com

เบร๊าเซอร์ Safari4 beta เร็วสุดๆ เร็วกว่า 42 เท่า

Safari4 beta
เบร๊าเซอร์ยอดฮิตอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Safari ซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆคนต้องรู้จักเจ้า เบร๊าเซอร์ตัวนี้ อย่างน้อยก็น่าจะเคยได้ยินชื่อมาบ้างหละ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Apple ได้พัฒนา Safari ให้สามารถใช้งานได้กับเครื่อง PC ทั่วไป ที่ไม่จำกัดวงเฉพาะเครื่อง Mac อีกต่อไป แต่เวอร์ชั่นแรกๆของ Safari สำหรับบน PC ที่ผมเองก็เคยมีโอกาสโหลดมาลองใช้ตั้วแต่สมัยออกใหม่ๆ ยอมรับเลยครับว่า ห่วย จริงๆ การแสดงผลเอย และสารพัดปัญหา จนต้องกลับไปใช้ Firefox และ IE ต่อไป แต่ Safari สำหรับเครื่อง Mac นั้นมันก็ดีมาแต่กำเนิดอย่าเอาไปเปรียบเทียบกัน จนมาเมื่อวันที่ 24 กพ ที่ผ่านมา ทาง Apple ได้ออก Safari 4 เวอร์ชั่น Beta ให้ลองโหลดไปใช้งานกันดู ผมเองก็ไม่พลาดที่จะลองของฟรีแบบนี้ เพราะโดยส่วนตัวชอบ GUI ของ Mac เค้าอยู่แล้ว ผลปรากฎหลังจากที่ได้ทดสอบการใช้งาน การแสดงผลภาษาไทยก็ถูกต้องใช้ได้ดีทีเดียว แต่สิ่งที่ประทับใจใน Safari 4 Beta สำหรับ PC นั้นก็คือเรื่อง Speed ความเร็วในการเปิดเว็บ Wow ! มันเร็ว โคตะระ เลยครับ

จากการทดสอบความเร็วของเว็บไซด์ในต่างประเทศ เค้าจับ Browser ยอดฮิตทั้งหลายมาประชันความเร็วกันดู ปรากฎว่าเจ้า Safari 4 Beta มันสามารถทำความเร็วได้เร็วที่สุดในโลกในเวลานี้ โดยเร็วกว่า IE 7 ถึง 42 เท่าตัวเลยครับ ลองดูกราฟเปรียบเทียบกันดู เค้าทดสอบโดยใช้เครื่อง PC 2.1GHz Intel Core 2 Duo: ซึ่งผลออกมาดังนี้

1) Safari 4 (Total time: 910ms)
2) Mozilla Minefield 3.2a1 (1,136ms)
3) Google Chrome (1,177ms)
4) Firefox 3 (3,250ms)
5) Opera 9.6 (4,076ms)
6) Internet Explorer 8 (5,839ms)
7) Internet Explorer 7 (39,026ms)

Safari4 beta

สำหรับความแปลกใหม่ในโปรแกรม เบร๊าเซอร์ Safari 4 นั้น มันมีลูกเล่นมากถึง 150 อย่างด้วยกัน ซึ่งผมคงไม่สามารถเล่าได้หมดแน่ๆ แต่หากอยากทราบว่ามีอะไรใหม่ลองไปอ่านได้ครับที่

http://www.apple.com/safari/features.html

แต่สำหรับที่เด็ดๆในเวอร์ชั่นนี้ก็อย่างเช่น

1.History View สามารถดู History แบบโชว์พรีวิวหน้าเว็บ แล้วเลื่อนได้คล้ายๆเวลาฟังเพลงบน iPod

2. Top Sites มันจะสามารถโชว์เว็บที่เราชื่นชอบได้เองอัตโนมัติ โดยโชว์ในรูปแบบหลายๆเว็บในหน้าจอเดียว

หากสนใจต้องลองไปโหลดได้ฟรีครับที่

http://www.apple.com/safari/

แล้วจะได้สัมผัสความเร็วของการดูเว็บ ชนิดว่าเร็วปรี๊ดจริงๆ ประทับใจในความเร็วมากครับ แต่ก็อย่าลืมว่าเวอร์ชั่นนี้ยังเป็น Beta อยู่บางทีมันก็มีอาการ งง งง ก่ง ก๊ง อยู่บ้างต้องให้อภัยเค้าไปก่อนรอเวอร์ชั่นเต็มตัวจริงน่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้หมด


ที่มา Mrpalm.com

กูเกิลบล็อค G1 รุ่นปลดล็อกไม่ให้ซื้อซอฟต์แวร์

กูเกิลเพิ่งเปิดให้นักพัฒนาสามารถขายซอฟต์แวร์บน Android จริงจังได้ไม่กี่วัน แต่ผู้ใช้โทรศัพท์ G1 รุ่นพัฒนากลับพบว่าโทรศัพท์ของพวกเขานั้นไม่สามารถเข้าไปซื้อซอฟต์แวร์ได้

กูเกิลให้เหตุผลของการบล็อคว่าโทรศัพท์รุ่นสำหรับนักพัฒนานั้นไม่มีการป้องกันใดๆ และอาจจะเป็นเครื่องมือของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ที่วางขายอยู่ได้ เนื่องจากนักพัฒนาอาจจะนำเฟิร์มแวร์รุ่นใดๆ ก็ได้มาติดตั้ง อีกทั้งการซื้อซอฟต์แวร์บนร้านของกูเกิลนั้นยังสามารถคืนซอฟต์แวร์ได้เต็มราคาใน 24 ชั่วโมง

แนวทางนี้อาจจะทำให้เราเริ่มเห็นอิทธิพลของกูเกิลต่อผู้ผลิตโทรศัพท์ที่จะใช้ Android ในอนาคตได้คร่าวๆ ขณะที่ผู้ผลิตสามารถดาวน์โหลดซอร์สโค้ดของ Android ไปใช้บนโทรศัพท์ได้ฟรีโดยไม่มีเงื่อนไขอื่นนอกเหนือจากสัญญาอนุญาตโอเพนซอร์ส แต่ผู้ผลิตอาจจะต้องทำตามเงื่อนไขบางประการของกูเกิลเพื่อที่จะให้โทรศัพท์ของตนเข้าไปซื้อซอฟต์แวร์ได้

เรื่องที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งคือ Android นั้นดึงดูดนักพัฒนาโอเพนซอร์สได้ค่อนข้างดี โดย Black Duck ได้ออกมาแถลงผลสำรวจซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สว่าไอโฟนยังคงเป็นที่หนึ่งด้วยจำนวนโครงการ 266 โครงการ, Android อยู่ที่ 191 โครงการ, Windows Mobile อยู่ที่ 174 โครงการ, และ Symbian นั้นมีเพียง 74 โครงการเท่านั้น

แต่ถึงจะเฟิร์มแวร์ภายนอกมากเพียงไร แต่ทุกวันนี้แฮกเกอร์หลายคนก็สามารถเข้าถึงสิทธิ์ root บนเครื่อง G1 รุ่นปรกติได้อยู่แล้ว ทำให้ไม่น่าจะยากนักที่จะมีการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์แบบเสียเงินมาแจกกันในโลกใต้ดินอยู่ดี

ที่มา - InformationWeek, C|Net

NVIDIA จะออก Ion 2 สำหรับ VIA ปีนี้

Ion 1 ยังไม่ทันออก (กำหนดออกเดือนพฤษภาคม) ทาง NVIDIA ก็ประกาศตัวแพลตฟอร์ม Ion 2 แล้ว

ความต่างก็คือแพลตฟอร์มนี้จะออกแบบมาสำหรับซีพียู VIA Nano แทนที่จะเป็น Atom เหมือนรุ่นแรก รายละเอียดอื่นๆ ยังไม่มี ทาง NVIDIA บอกแค่ว่า Ion 2 จะออกวางตลาด "ภายในปีนี้" ส่วนทาง VIA บอกแค่ว่าโครงการนี้เริ่มกันมาก่อนการเปิดตัว Nano เมื่อเดือนมิถุนายน 2008 แล้ว

กลยุทธ์ Ion ของ NVIDIA นั้นมีจุดน่าสนใจ 2 อย่าง อย่างแรกคือพยายามเจาะตลาดชิปเซ็ต ซึ่งเป็นช่องว่างทางการตลาดที่เกิดจากแพลตฟอร์มของอินเทลในปัจจุบันไม่แรงพอ และแพลตฟอร์มใหม่ก็ยังไม่เสร็จ อย่างที่สองคือจับมือกับ VIA ซึ่งเป็นฝ่ายตามในตลาด netbook จะได้รับการสนับสนุนที่ดีกว่าอินเทลอย่างแน่นอน ในมุมของ NVIDIA ก็เป็นการกระจายความเสี่ยง และเป็นการสร้างแบรนด์ Ion ให้เหนือกว่า Atom/Nano ด้วย (ลองนึกถึงสถานการณ์ "ซื้อคอมที่มี Ion จะใช้ Atom หรือ Nano ก็ไม่เป็นไร"

ที่มา - Ars Technica

2009/02/26

Vista SP2 ออก Release Candidate แล้ว

วันนี้ไมโครซอฟท์ได้ออกมาเปิดเผยว่าได้ออก Release Candidate ของ windows Vista และ Windows Server 2008 แล้ว โดยในช่วงแรกจะเปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะสมาชิก TechNet และ MSDN ก่อน สำหรับผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรออีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีกำหนดการออกตัวจริงภายในไตรมาสที่สองของปีนี้ด้วย

สำหรับสิ่งที่เปลี่ยนไปนั้นเป็นการแก้บั๊กเป็นส่วนใหญ่ตามข่าวเก่า โดยสามารถดูเพิ่มเติมได้จากหน้านี้ครับ โดยขนาดที่จะต้องดาวน์โหลดคือประมาณ 300-400 เมกะไบต์สำหรับรุ่นที่ติดตั้งทั่วไป และหากใช้งาน Windows Update เป็นประจำจะต้องดาวน์โหลดเพียง 40 เมกะไบต์

ที่มา: Windows Vista Team Blog

2009/02/25

Marvell จับคอมพิวเตอร์ไปยัดลงในปลั๊กไฟ

อุปกรณ์จำพวก home server ที่เป็น headless นั้นออกมาให้เราเห็นกันหลายแบบพอสมควร ตัวที่ดังๆ หน่อยก็อย่างเช่น Time Capsule ของแอปเปิล ที่เอาโซลูชันการแบ็คอัพไปรวมไว้ใน Wi-Fi router

บริษัท Marvell ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์และชิปเซ็ตหลายชนิด ได้ผลักดันแนวคิดใหม่คือเอาคอมพิวเตอร์ไปใส่ไว้ในปลั๊ก (หมายถึงปลั๊กที่เป็นตัวเสียบนะครับ ไม่ใช่อันที่ติดกับกำแพง) ปลั๊กรุ่นนี้มีชื่อว่า SheevaPlug เป็นส่วนหนึ่งของแผนการ Plug Computing เป้าหมายคือเป็นส่วนประมวลผลสำหรับโซลูชันแบ็คอัพ และการแชร์ไฟล์ภายในบ้าน

เจ้า SheevaPlug มีซีพียู Marvell Sheeva 1.2GHz, RAM 512MB และ Flash 512MB มีอีเธอร์เน็ต 1 พอร์ทเอาไว้ต่อกับ router และ USB 1 พอร์ทสำหรับต่อกับอุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอก, DAS หรือกล้องเว็บแคม เป็นต้น

จุดเด่นของ SheevaPlug ก็แน่นอนว่าเป็นเรื่องพลังงานและเสถียรภาพ กินไฟต่ำ เปิดทิ้งไว้ได้นานไม่ต้องถอด ตามที่อุปกรณ์จำพวก appliance พึงจะมี SheevaPlug สามารถลงลินุกซ์และจัดการผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ เหมาะสำหรับนำไปพัฒนาต่อเป็นระบบฝังตัวอื่นๆ ตัว SDK วางขายแล้ว ทั้งชุดราคา 99 ดอลลาร์

ที่มา - CNET

2009/02/24

Samsung ขอเล่นด้วยกับ นาฬิกามือถือจอสัมผัส Samsung GT-S1100

Samsung GT-S1100
เปิดตัวให้ฮื่อฮากันอีกแล้วครับสำหรับ Samsung ก็ในงาน Mobile World Congress 2009 เค้าได้ส่ง Samsung GT-S1100 มาให้เรา ท่าน ๆ ได้ยลโฉมกันครับ (ผมว่าสวยกว่าของ LG เยอะเลยครับ) เรามาดูรายละเอียดคราว ๆ กันดีกว่า ว่าเจ้า Samsung GT-S1100 มีอะไรมาให้เราได้ลองเล่นกันบ้าง

Samsung GT-S1100 นาฬิกามือถือหน้าจอทัชสกรีนที่ออกมาล่าสุดในงาน Mobile World Congress 2009 นี้จะอาจจะเป็นการออกตัวของปี 2009 ก็ได้ครับSamsung เรามารอดูกันดีกว่า เค้าจะทำให้ตลาดยอมรับได้หรือมั้ย

โดย Samsung GT-S1100 รุ่นนี้มาพร้อมกับ Bluetooth และ Speakerphone ที่คาดว่าจะน่าจะวางจำหน่ายได้ภายในปีนี้ แต่สเปกและข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ยังไม่เปิดเผยให้ได้รู้กัน ลองไปดูรูปกันก่อนแล้วกัน

ที่มา : www.engadget.com

Nokia N97 เตรียมบุกไทยกลางปีนี้ งามหรือไม่มาชมกัน

เมื่อวันที่ 20 กพ ที่ผ่านมา หากใครได้มีโอกาสผ่านไปแถว หน้าลานเซ็นทรัลเวิลด์ อาจจะงงว่าเค้ามีอะไรกันทำไมคนเยอะมากเป็นพิเศษ ซึ่งในวันที่ 20 กพ ที่ผ่านมานั้นก็คือวันที่ส่งมอบเครื่อง Nokia 5800 โทรศัพท์รุ่นที่หน้าจอทัชสกรีนราคาไม่แพงของ Nokia ซึ่งตามข่าวแล้วเค้าว่ายอดจองผ่าน Online นั้นมากถึง 1.5 หมื่นเครื่องเชียวนะครับ นับว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจพอสมควร และในปีนี้ช่วงกลางปี ทาง Nokia เองก็จะวางตลาดเครื่องรุ่น N97 ซึ่งเป็นเครื่องอีกรุ่นที่น่าสนใจ ผมเองก็ได้มีโอกาสเห็นเครื่องตัวจริงมาแล้วแต่ไม่มีโอกาสสัมผัสตัวจริง เครื่องรุ่น N97 นี้เค้าเอาเครื่องจริงมาโชว์ในงาน Thailand Mobile Expo 2009 ที่ผ่านมา ซึ่งเท่าที่ดูเครื่องที่โชว์ในกรอบกระจก ตัวจริงผมว่าเครื่องมันสวยมากทีเดียว วันนี้เลยขอพาไปเจาะลึกชมภาพเครื่องรุ่น N97 ที่ทาง Nokia เอาไปโชว์ในงาน MWC2009 ที่ผ่านมาอีกสักรอบนะครับ ส่วนเรื่องของราคาอย่างไม่เป็นทางการเค้าว่าราคาค่าตัวมันจะอยู่ที่ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท


- Built-in AGPS, electronic compass
- จอ 3.5-inch 640 x 360 touch screen
- widget Built-in widget
- Flash video support
- 32 GB built-in memory
- The maximum support to 16 GB microSD memory expansion
- 1.5 days maximum range music player
- 5,000,000-pixel auto focus camera, Carl Zeiss
- 16:9 DVD-quality video
- HSDPA HSDPA support
- WLAN Built-in WLAN
- Built-in 3.5 mm headphone hole
- TV-Out TV-Out support
- N-Gage Support
- Use of BL-4C battery (1500 mAh)
- Listed in the first half of 2009, ราคา 550 euros





สำหรับ N97 ตัวใหม่นี้จะใช้ระบบปฎิบัติการ S60 5th Edition OS หน้าจอแบบ Touch Screen เน้นการใช้งานด้าน Internet เป็นหลัก มี A-GPS ในตัวเครื่องสามารถระบุตำแหน่งได้ มาพร้อมกับรูหูฟัง 3.5 mm แบบมาตราฐานทั่วๆไป ส่วนเรื่อง Memory น่าสนใจมากครับ เพราะมันสามารถอัด Memory ได้สูงถึง 48 GB เชียวนะ ! โดยมี Memory ในตัวเครื่อง 32 GB และเพิ่มด้วย Card อีก 16 GB กลายเป็น 48 GB




เครื่องรุ่นนี้จะมีสองสี หน้าจอจะใหญ่กว่ารุ่น Nokia 5800 ที่เพิ่งส่งมอบกันไป โดยในรุ่น N97 จะมีหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ที่ความละเอียด 640 x 360 ซึ่งทาง Nokia เรียกว่า nHD




เครื่องตัวจริงดูเนี๊ยบมากครับ หากใครไปงาน Thailand Mobile Expo ก็คงจะได้เห็นเครื่องจริงรุ่นนี้ไปแล้ว ตัวสีขาวจั๊วะ วัสดูดูดีมากทีเดียว



มีตัว Sensor ระยะทาง ก็คงจะคล้ายๆกับทาง iPhone ที่พอเอาแนบหูปุ๊บหน้าจะดับเพื่อช่วยประหยัดไฟ




ปุ่มรับสายวางสายด้านล่างวางชิดกันมาก




ช่องเสียบสายอยู่ด้านข้าง



ตัวเครื่องรุ่นนี้ดูหน้าตาจะไปเหมือนกับ HTC Touch Pro2 ตัวใหม่ของทาง HTC ที่กำลังจะออกอีกไม่นานนี้ มี Keyboard แบบ QWERTY ที่พอพลิกสไลด์หน้าจอออกมาแล้วสามารถเลื่อนขึ้นทำมุมเอียงให้เหมาะกับสายตา




บริเวณด้านหลังเครื่อง







มีรูเสียบหูฟังแบบมาตราฐาน 3.5 mm มาให้ด้วย




สำหรับ Connector นั้นจะใช้แบบ ไมโครยูเอสบี ไม่ใช่ มินิยูเอสบีแบบทั่วๆไป



ทางด้านขวามือตัวเครื่องเป็นปุ่มปรับเสียงและปุ่มชัตเตอร์สำหรับถ่ายภาพ



ฝาหลังเครื่องเป็นพลาสติก




กล้องความละเอียดที่ 5 ล้านพิกเซลแบบ Auto Focus โดยใช้เลนส์ของ Carl Zeiss







หน้าจอสามารถหมุนกลับจอได้อัตโนมัติแบบ Full time ซึ่งจะต่างกับเครื่องบางรุ่นของ Nokia ที่สามารถกลับหน้าจอได้แบบเฉพาะบางเมนูหรือบางโหมดเท่านั้น



โปรแกรมพิเศษที่แถมมาให้ในเครื่องรุ่นนี้คือ Accu Weather แสดงสภาวะอากาศทั่วโลก



แน่นอนว่ามี FM ครับ

 

สำหรับเครื่องรุ่น N97 นั้นทาง Nokia ประเทศไทยประกาศแล้วว่าจะนำมาทำตลาดแน่นอนในช่วงกลางปีนี้ ส่วนราคาค่าตัวจะเป็นเท่าไร ต้องรอติดตามดูครับ เครื่องแบบมี Keyboard แบบนี้ในเมืองไทยไม่ค่อยนิยมสักเท่าไร ต้องรอลุ้นดูว่าจะรอดหรือไม่ ยังมี Touch Pro2 ของทาง HTC อีกตัวที่น่าจับตามองเช่นกัน

www.bangkokbiznews.com
www.eprice.com.tw



ที่มา Mrpalm.com

Microsoft ชนะคดี Vista Capable

โลโก้ Vista Capable ที่ออกมาก่อนการวางตลาดของวิสต้านั้นนับเป็นโลโก้ที่ก่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดอันหนึ่ง เพราะเอาเข้าจริงแล้วเครื่องที่มีโลโก้ Vista Capable นั้นจะทำงานได้กับ Vista Basic เท่านั้น แถมประสิทธิภาพไม่ดีนัก จนเกิดการฟ้องร้องกันยาวนานให้ไมโครซอฟท์ต้องชดเชยให้กับผู้บริโภคที่เข้าใจผิดว่าคอมพิวเตอร์ที่ติดตรง Vista Capable นี้จะสามารถใช้งานวิสต้าได้อย่างเต็มที่

แต่ล่าสุดศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ก็ได้มีคำพิพากษาให้คดี Vista Capable นี้ตกไป เนื่องจากผู้ฟ้องไม่สามารถแสดงได้ว่าผู้บริโภคเสียเงินเพิ่มขึ้นจากตราที่ว่านี้อย่างไรบ้าง

งานนี้นับว่าเป็นการรอดตัวครั้งใหญ่ เพราะคอมพิวเตอร์ที่ถูกซื้อไปในช่วงเวลาของโครงการ Vista Capable นั้นนับรวมกันแล้วก็เป็นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาระบุว่าผู้เสียหายรายบุคคลยังคงสามารถฟ้องร้องได้เป็นรายๆ ไป

ที่มา - infopackets

2009/02/23

10 อันดับมหาลัยค่าเรียนแพงที่สุดในโลก

ว่ากันว่าช่วงเศรฐกิจตกต่ำจะเป็นยุคทองของการศึกษา ภายใต้ข่าวปรับลดคนงานและข่าวร้ายต่างๆ แต่มหาลัยกลับมีคนสมัครเรียนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม การศึกษาก็ต้องมีค่าใช้จ่ายตามมา มหาลัยที่มีชื่อเสียงหรือหลักสูตรดีๆ บางทีก็มีค่าเทอมที่แพงตามความนิยม (แต่บางทีก็ไม่)

สำหรับการศึกษาต่อต่างประเทศของคนไทย ประเทศยอดนิยมก็คงหนีไม่พ้นอเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลีย ทั้งนี้ทาง Forbes ได้จัดอันดับมหาลัยที่มีค่าเรียน (Tuition & Fees) แพงที่สุดในโลกมา 10 อันดับ ดังนี้

1.อเมริกา : George Washington University, Washington - $60,963
2.อเมริกา : Sarah Lawrence College, New York - $60,851
3.อเมริกา : Kenyon College, Ohio - $60,685
4.อเมริกา : Vassar College, New York - $60,640
5.อเมริกา : Bucknell University, Pennsylvania - $59,799
6.สวิตเซอร์แลนด์ : Franklin College - $49,918
7.ฝรั่งเศส : American University of Paris - $49,164
8.อังกฤษ : Imperial College London - $41,925
9.สิงคโปร์ : National University of Singapore - $36,194
10.ออสเตรเลีย : University of Melbourne - $30,463

2009/02/21

Sony Ericsson Idou ทัชโฟนติดกล้อง 12 ล้านพิกเซล

Sony Ericsson Idou ทัชโฟนติดกล้อง 12 ล้านพิกเซล


โซนี่ อีริคสัน เปิดตัวโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส ระดับ VGA กว้าง 3.5 นิ้ว แสดงภาพแบบ Wide-screen ในมาตราส่วน 16:9 พร้อมด้วยกล้องถ่ายรูป ความละเอียดสูง 12.1 ล้านพิกเซล ไฟแฟลช Xenon ระบบออโต้โฟกัส รองรับเครือข่าย 3G , Wi-Fi ใช้ระบบปฏิบัติการ Symbian S60



Sony Ericsson Idou



Sony Ericsson Idou



Sony Ericsson Idou



Sony Ericsson Idou



Sony Ericsson Idou



Sony Ericsson Idou



ที่มา siamphone.com

พรีวิว Sony Ericsson C901


Sony Ericsson C901



ข้อมูลทั่วไป Sony Ericsson C901 - โซนี่ อีริคสัน



  • เปิดตัวครั้งแรก 17 กุมภาพันธ์ 2009 (สยามโฟนฯ)


  • ออกวางจำหน่าย ไตรมาสที่ 2 ปี 2009 (ยังไม่ระบุ)


  • ราคามือถือ (เปิดตัว) ยังไม่ระบุ



ข้อมูลตัวเครื่อง (Spec)



  • ระบบ Quadband (GSM 850/900/1800/1900 MHz)

    - UMTS 900/2100 MHz , HSDPA 3.6 Mbps


  • จอแสดงผล TFT-LCD 262,144 สี - 240 x 320 พิกเซล (2.2")

    - ระบบหมุนภาพอัตโนมัติ (Accelerometer)


  • ปุ่มควบคุม 5 ทิศทาง (5 ways Navi-Key)


  • เสียงเรียกเข้า MP3, AAC, Polyphonic

    - ระบบสั่น (Vibration in Phone)


  • หน่วยความจำ 110 MB (ตัวเครื่อง)

    - การ์ดหน่วยความจำ Memory Stick Micro (M2)


  • บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ 1,000 รายชื่อ (Phonebook)

    - แสดงภาพถ่าย ขณะมีสายเข้า (Photo callerID)


  • มี 3 สีให้เลือก (Colors) :

    - Noble Black, Sincere Silver, Precious Peach






Sony Ericsson C901



ระบบเชื่อมต่อ (Connectivity)



  • ส่งผ่านข้อมูล (Data Transfer)

    - บลูทูธ Bluetooth v2.0, USB v2.0

    - รองรับชุดหูฟังสเตอริโอ (A2DP Bluetooth Stereo)


  • ใช้งานอินเตอร์เน็ต xHTML/WAP 2.0 Browser

    - เว็บบราวเซอร์ Netfront (Web Browser)

    - โมเด็มในตัว (Build-In Modem)


  • รับ-ส่งข้อความ (Messaging)

    - อีเมล์ Email, MMS, EMS, SMS

    - ข้อความแชท (Instant Messaging)

    ผ่าน 3G-HSPA, EDGE, GPRS Class 10


  • รองรับ จาวาแอพลิเคชั่น - Java MIDP 2.0



จุดเด่น (Feature)



  • ระบบดาวเทียม ค้นหาตำแหน่ง (Build-In aGPS navigation)

    - แอพพลิเคชั่น Google Maps


  • กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Xenon

    - ขนาดภาพสูงสุด 2592x1944 พิกเซล (Image size)

    - โหมดปรับภาพอัตโนมัติ (Autofocus)

    - โฟกัสใบหน้า (Face Detection)

    - ระบบตรวจจับรอยยิ้ม (Smile Shutter)

    - แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-tagging)

    - อัพโหลดภาพใส่บล็อคส่วนตัว ( Picture blogging )


  • บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video recording)


  • เครื่องเล่นวีดีโอ และ วีดีโอสตรีมมิ่ง

    - รองรับวีดีโอจาก YouTube


  • เครื่องเล่น MP3/AAC/MPEG4 player


  • บันทึกเสียงแล้วค้นหาเพลง (TrackID)


  • วิทยุ FM Radio - RDS


  • ควบคุมเกมส์ด้วยการเคลื่อนไหวตัวเครื่อง (Motion gaming)


  • แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)


  • นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข, ปฏิทิน, จดบันทึก, นาฬิกาจับเวลา


  • Flight mode : ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์



การใช้งานของแบตเตอรี่



  • แบตเตอรี่มาตรฐาน (Standard Battery)


  • เปิดรอรับสาย 430 ชั่วโมง (Standby Time)


  • สนทนาต่อเนื่อง 9.30 ชั่วโมง (Talk Time)





รุ่นอื่นๆของ Sony Ericsson ที่เปิดตัวในรอบนี้



(คลิกที่ภาพเพื่อดูรายละเอียดในแต่ละรุ่น)



Sony Ericsson C901 Sony Ericsson C901 Sony Ericsson C901





รุ่นอื่นๆของ Sony Ericsson ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้



(คลิกที่ภาพเพื่อดูรายละเอียดในแต่ละรุ่น)



Sony Ericsson C901 Sony Ericsson C901



ที่มา siamphone.com