2008/10/27

Mio Leap G50 รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่กำลังจะมาไทย


ขอนำภาพเครื่อง PDA Phone รุ่นล่าสุดอีกรุ่นหนึ่งที่มีแนวโน้มว่าจะเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอีกไม่นานนี้ เผอิญผมมีโอกาสได้ลองสัมผัสจับเครื่องจริงของ รุ่นนี้มาเรียบร้อยแล้วเลยขอนำภาพและความรู้สึกที่ได้ลองใช้งานเครื่องรุ่นนี้มาเล่าสู่กันฟัง เครื่องรุ่นนี้ชื่อเต็มๆ ว่า Mio Leap G50 หรืออีกชื่อว่า Lovebird เป็น PDA phone ที่ได้รับรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยมเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง หน้าตาเครื่องรุ่นนี้ของ Mio จะแตกต่างจากเครื่องรุ่นอื่นๆที่เคยทำมา ก็คือเครื่องรุ่นนี้จะมาแนวเรียบทั้งตัว แบบคล้ายๆพวก iPhone หรือ Smasung Omnia ซึ่งเทรนเครื่องแนวแบบนี้ ในปีนี้กำลังฮิตมาก แทบทุกยี่ห้อต่างก็ทำตามๆกันหมด คงไม่ต้องบอกแล้วว่าจุดเริ่มมาจากเครื่องรุ่นไหน

สำหรับ Mio รุ่นนี้ตัวจริงปุ่มแทบไม่มีเลยครับ เป็นปุ่มแบบสัมผัสทั้งหมด หน้าจอเรียบกริบไม่มีขอบ เน้นใช้งานแบบ Software ที่เป็นTouch เป็นหลัก

ตัวเครื่องตัวจริงขนาดไม่ใหญ่นะครับ ขนาดพอๆกับพวก HTC Touch แต่ตัวจะหนากว่าหน่อย เครื่องออกแนวเรียบๆ วัสดุที่ใช้ก็ดูโอเค ไม่ถึงกับหรูหราไฮโซสไตล์แบบพวก Sony Ericsson Xperia X1 แต่เรื่องวัสดุจัดว่าเข้าท่า ตัวเครื่องขนาดความหนาจะหนากว่าพวกเครื่อง HTC Touch หน่อย ทรงเครื่องมาแนวเหลี่ยมๆ โค้งบมนนิดหน่อย โดยรวมๆก็สวยดีดูแล้วไม่น่าเบื่อ




ด้านหลังเครื่องเป็นแผ่นพลาสติกทั้งตัวเคลือบด้วยไวนิลกันลื่นสีดำด้านจับแล้วไม่เป็นรอยนิ้วมือติดครับ กล้องในเครื่องรุ่นนี้ดูเหมือนจะน้อยไปสักนิดตกเทรนไปหน่อย เพราะกล้องให้มาแค่ สองล้านพิกเซลเท่านั้นเอง


ขนาดเครื่องด้านข้างถ้าบางกว่านี้ได้อีกสักนิดหละแจ๋วเลย ด้านข้างก็เรียบๆเป็นพลาสติกดูแล้วจืดไปหน่อย


บริเวณด้านหน้าออกแบบสไตล์คล้ายๆ iPhone แต่ดูไปดูมาผมว่ามันชักจะไปเหมือนกับ LG Prada ยังไงก็ไม่ทราบเหมือนกัน จุดเด่นเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ ปุ่มตรงกลางเป็นปุ่มแถบสัมผัส ที่มีไฟโชว์ตรงกลาง ใช้นิ้วรูดเลื่อนขึ้นลง การตอบสนองทำได้ค่อนข้างดีเหมือนกัน


ปุ่มด้านหน้ามีเพียงสามปุ่มเท่านั้นหละครับ เวลาไม่มีการใช้งานไฟตรงส่วนปุ่มนี้จะดับไปเอง ในปี 2008 นี้ทิศทางการออกแบบเครื่อง PDA Phone เปลี่ยนไปมากครับ ก่อนหน้านี้เครื่อง PDA Phone ที่เจ๋งและแจ๋ว จะต้องมีปุ่มช่วยการทำงานเยอะ มีรอบตัวเลยยิ่งดี กดกันมันส์เลย แต่พอมาปีนี้เครื่องรุ่นใหม่ๆออกแบบมาแนว เรียบๆปุ่มน้อยๆ ไม่จำเป็นต้องพึ่งปุ่มและ Stylus มากนัก เพราะอะไรหรือครับ?

ก็เพราะว่าเครื่องรุ่นปีใหม่ๆนี้ เค้าจะเน้น Software แบบ Touch Interface หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า Software ประเภท Gesture Control คือใช้นิ้วควบคุมการทำงานเป็นหลัก แม้ว่าระบบปฎิบัติการ Windows mobile จะไม่ได้ถูกออกแบบให้ความสะดวกในการใช้ Touch interface มากนัก แต่ผู้ผลิตแทบทุกราย ไม่ว่าจะเป็น HTC / ASUS / MWG ต่างก็คิดค้น Software ที่จะมาควบคุมครอบลงบน OS อีกที จะว่าเป็นผักชีโรยหน้าแปะไว้ก็ไม่เชิง เพราะการทำงานแบบ Touch interface ที่สมบูรณ์จริงๆนั้นมันจะไปอยู่ที่ Windows mobile 7 มากกว่า


ปุ่มเปิดปิดจะอยู่บริเวณด้านบนครับ

CPU ที่ใช้ในการประมวลผลครั้งนี้จะใช้ Samsung S3C 2443-400MHz ซึ่งถือว่าเร็วครับเพราะโดยปกติแล้ว CPU ของ Samsung จะทำงานเร็วว่า CPU อื่นๆในระดับ MHz เท่ากัน สำหรับเครื่องรุ่นนี้จะรองรับระบบโทรศัพท์ quad-band GSM และ EDGE การทดสอบการทำงานโดยคร่าว เท่าที่ลองยืนเล่นดูผมว่าการทำงานค่อนข้างเร็วดีครับ ฉับไวใช้ได้เลยหละ

-Windows Mobile 6.1
-2.8″ TFT touchscreen
-400Mhz processor
-MioMap 2008 interface
-Photo navigation with GPS encoded photos from Flickr and other sites
-GSM quad band GPRS, and EDGE
-2MP camera, audio player, photo viewer, video player
-Bluetooth connectivity
-มี WiFi


สำหรับเครื่อง Mio Leap G50 ตัวนี้ในตอนนี้ในต่างประเทศเองก็ยังไม่เผิดตัวนะครับ แต่เผอิญได้มีโอกาสลองเล่นก่อนในเมืองไทย อีกเรื่องหนึ่งตามข้อมูลก่อนหน้านี้ เค้าแจ้งมาว่าเครื่องรุ่นนี้ไม่มี WiFi ในตัว แต่สำหรับตัวที่ผมได้ไปทดสอบลองเล่นมานั้นมันมี WiFi ในตัวเครื่องด้วยนะครับ เรื่อง Spec อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้ สำหรับเรื่องราคานั้นทางผู้นำเข้าเค้ายังไม่ตั้งราคาเลยหละครับ แต่ยังไงเครื่องรุ่นนี้ก็คงวางตำแหน่งตัวสินค้าเป็นเครื่อง PDA Phone ที่มี GPS ในราคาไม่แพงมากนัก และแถมด้วยดีไซด์ที่ดูทันสมัยกว่ารุ่นที่ผ่านๆ

No comments: