2009/03/14

Apple เตรีบมโชว์ เฟริมแวร์ 3.0

แอปเปิล (Apple) ส่งอีเมลเชิญสื่อมวลชนร่วมงานเปิดตัวความเคลื่อนไหวใหม่ของค่ายซึ่งจะจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนียวันที่ 17 มีนาคมนี้ มั่นใจงานนี้แอปเปิลจะเปิดตัวเฟิร์มแวร์ไอโฟนรุ่นล่าสุด iPhone3.0 โดยที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่าแอปเปิลเตรียมจำหน่ายคอมพิวเตอร์แมคอินทอชทัชสกรีนจริงหรือไม่ หลังจากบริษัทไต้หวันออกมายอมรับว่าได้รับคำสั่งซื้อหน้าจอทัชสกรีนขนาด 10 นิ้วล็อตใหญ่ บนกำหนดเริ่มส่งของช่วงไตรมาสสามปีนี้

แหล่งข่าวนิรนามจากบริษัทผลิตหน้าจอระบบสัมผัสสัญชาติไต้หวันนาม Wintek ซึ่งเป็นผู้ผลิตหน้าจอระบบสัมผัสให้กับไอโฟนในขณะนี้ ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนต่างประเทศว่า Wintek ได้รับออเดอร์หรือคำสั่งซื้อให้ผลิตหน้าจอสัมผัสในขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 10 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดเทียบเท่ากับหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กบางรุ่นที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบัน

Apple 3.0


หลายฝ่ายคาดเดาว่าแอปเปิลกำลังจะผลิตคอมพิวเตอร์ขนาดย่อมหน้าจอสัมผัสออกมาจำหน่าย แม้แหล่งข่าวจากไต้หวันจะระบุว่า ไม่ทราบว่าหน้าจอสัมผัสนี้จะถูกนำไปผลิตเป็นสินค้าชนิดใด หรือใครจะเป็นผู้นำไปประกอบเป็นสินค้าเพื่อวางจำหน่าย โดยล่าสุดสื่อไต้หวันรายงานว่าแอปเปิลนั้นกำลังพัฒนาคอมพิวเตอร์พีซีหน้าจอสัมผัสแล้วตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่าเป็นกลยุทธ์ใหม่สำหรับผสานอาณาจักรความสำเร็จของแอปเปิลในตลาดสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์พีซีเข้าด้วยกัน



ประชาสัมพันธ์ Wintek นามเจมส์ เชน (James Chen) ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวที่เกิดขึ้น โดยยอมรับเพียงว่าแอปเปิลนั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทในขณะนี้

รายงานบางชิ้นระบุว่า บริษัทรับจ้างผลิตคอมพิวเตอร์แลปท็อปพีซีรายใหญ่ของโลกสัญชาติไต้หวันอย่าง Quanta Computer นั้นกำลังจะเซ็นสัญญาเพื่อผลิตคอมพิวเตอร์พีซีให้แอปเปิลด้วย โดยประชาสัมพันธ์แอปเปิลไม่สามารถให้ความเห็นต่อทั้งสองกรณีได้ รวมถึงประชาสัมพันธ์ของ Quanta ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเช่นกัน

สำหรับงานที่แอปเปิลจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 17 มีนาคมนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดเช่นเคย โดยแอปเปิลระบุในจดหมายเชิญว่าจะเป็นการบอกเล่าสิ่งที่แอปเปิลกำลังพัฒนาอยู่ในขณะนี้สำหรับใส่ในซอฟต์แวร์ iPhone 3.0 ซึ่งเชื่อว่าจะพัฒนาให้ไอโฟนมีความสามารถมากขึ้น เช่น การให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกและวางข้อมูลข้ามแอปพลิเคชันได้ การปรับปรุงให้ไอโฟนสามารถส่งเอ็มเอ็มเอส รวมถึงเพิ่มความสามารถด้านบลูธูทในไอโฟนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000029144

No comments: