แกะกล่อง Sony Ericsson XPERIA X1

ในที่สุดค่าย SE (Sony Ericsson) ก็ทนไม่ไหวออก Windows Mobile รุ่นใหญ่ขนาดจิ๋ว ครบเครื่องรวมทั้ง GPS หน้าจอละเอียดถึง 800 x 480 ให้ภาพคมชัดสวยงามมาก โรงงานที่ผลิต XPERIA X1 ก็คือ hTC เจ้าเก่านี่เอง แต่ว่าเรืองการออกแบบ และคุณภาพวัสดุที่ใช้จะฉีกแนว hTC ดูแล้วเป็นของดีมีตระกูล สมกับเป็นระดับ High End ของ SE ทีเดียว ผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของ SE มีโอกาสอพยพมาใช้ Windows Mobile กันคราวนี้ละครับ

SE เป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ รุ่นที่ผมชอบมากหลายปีก่อนก็คือ T39m T68i ในช่วงเวลานั้นเป็นมือถือรุ่นที่ดีที่สุด ที่เอามาเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับ Pocket PC แล้วใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม นิยมใช้กันมากจริง ตอนนี้ยังเห็นมีโพสกันในกระดานแลกเปลี่ยนซื้อขายว่าต้องการซื้ออยู่เลย

ในช่วงที่ hTC ออก Pocket PC Phone ตัวแรก รุ่น XDA โดยผลิตให้โอทู ทาง SE ก็ได้ออกรุ่น P800 (และตามด้วย P900 ในเวลาต่อมา) ผมก็ได้มีโอกาสสัมผัสนิดหน่อยตอนไปรับเครื่อง Xda II หรือ Himalaya กับพี่ตุ๋ย (ธค 2003) ยอมรับว่าคุณภาพของเขาทำมาได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องบูลธูท ซึ่งตอนนั้น Xda II ยังทำได้ไม่ค่อยได้เรื่อง ที่จริง P800 เป็นเครื่องโทรศัพท์หลักของพี่ตุ๋ยครับ

มาเข้าเรื่อง GPS Windows Mobile Phone ของ SE กันดีกว่านะครับ

ลองมาดูสเป็ค (specification) กันว่าเครื่องแรงแค่ไหน

ผมถูกใจ ชอบหลายๆอย่างเช่น มี GPS ในตัว CPU แรงถึง 528 MHz มี memory เหลือเฟือ เป็นระบบ 3G เอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้ หน้าจอละเอียดถึง 800 x 480 pixel มี flash มีแบตทนถึง 1500 mAh มีคีย์บอร์ดจิ้มได้ตรงๆ เป็นต้นครับ

คราวนี้มีดูกันชัดๆ เลยว่าด้านในมีอะไรบ้าง

กล่อง XPERIA X1 รู้สึกว่าขนาดเล็กกระทัดรัดบาง ใช้มือดันเพื่อเลื่อนฝาครอบออก มีกล่องสีขาวล้วนด้านใน เปิดฝาอีกทีจะพบกล่องสามใบเล็กด้านใน จะประกอบด้วย กล่องใส่ตัวเครื่อง XPERIA X1 กล่องอุปกรณ์เสริม และกล่องใส่คู่มือและซอฟท์แวร์

ภาพแรกที่เปิดฝากล่องครับ

ภาพถายแบบเฉียงๆ เพื่อให้เห็นมุมขวาอย่างชัดๆ

คราวนี้ด้านซ้ายดูบ้าง

ภาพหน้าตรง จอภาพสะท้อนเห็นกล้องถ่ายรูปเลย

ขยายให้เห็นชัดๆ ด้านบน ชื่อ Sony Ericsson เด่นชัด ถัดขึ้นไปเป็นลำโพงหูฟัง ฝุ่นเข้ายาก ถึงเข้าไปก็มองไม่เห็นออกแบบได้เนียนจริงๆ

ด้านล่าง Logo XPERIA เด่นอยู่ตรงกลางดูแล้วคงไม่ลอกง่ายๆ

ปุ่มซอฟท์คีย์ซ้ายและขวา ปุ่มโทรออกและวางสาย ปุ่มวางสายถ้ากดค้างไว้สักพักก็จะล๊อคหน้าจอทำให้ต้อง unlock ถึงจะใช้งานหน้าจอได้ ถัดมาเป็นปุ่ม X PANEL ปุ่มนี้เป็นปุ่มที่เอาไว้ให้เลือกหน้าจอมีถึง 7 แบบเอาไว้ไปดูรายละเอียดที่ภาค Software อีกทีครับ และก็ปุ่ม OK

จุดแตกต่างของรุ่นนี้นอกจากปุ่ม 5 ทิศทาง ซ้าย ขวา บน ล่าง และ Action ก็คือ Pad ตรงกลางเป็น Optical สามารถใช้นิ้วสัมผัสเบาก็จะเลื่อนตำแหน่งได้ง่ายๆ

เลื่อนคีย์บอร์ดออกมา ไม่นึกว่าเครื่องบางๆจะมีคีย์บอร์ด นี่ถ้าไม่มาด้วยเครื่องจะบางลงอีกเยอะทีเดียว

คีย์เป็นแบบเมทอลิคดูมีระดับและสวยงามประณีต

ด้านล่างมันวาวโครเมียม มีที่ไว้ในที่คล้องคออยู่ตรงกลาง

ด้านบน ซ้ายมือคือปุ่มปิดเปิด ด้านขวาคือช่องเสียบ hand free หรือหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5mm ไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อตัวแปลง

ภาพด้านข้างซ้าย ไฟแสดงสถานะการชาร์ทจะอยู่ด้านนี้ อยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างติดสลับกันเลยครับ

ช่อง miniUSB สำหรับชาร์ทและซิงค์ ไฟชาร์ทจะติดเป็นช่วงๆเหนือช่อง miniUSB ตรงขอบดำๆ นะครับ

ช่องลำโพงด้านล่าง ไฟแสดงการชาร์ทจะติดเป็นช่วงๆ ด้านนี้เช่นกัน

ภาพด้านขวา

ปุ่มด้านล่างคือกล้องหรือวีดิโอ

ปุ่มด้านบนขวาสำหรับเร่งและลดเสียง ปุ่มนี้สามารถใช้ปิดเสียงโทรเข้าโดยกดเพียงหนึ่งครั้ง

ภาพด้านหลัง มีกล้อง 3.2 megapixel แถมแฟลช

ภาพถ่ายแฟรชขณะเปิดอยู่ แสงแรงมากแสบตาเลยครับ

การปิดฝาหลัง ใช้เล็บสอดเข้าไปในช่องเล็กๆทั้งสองข้างและก็ดึงออกมาตรงๆ ฝาหลังก็จะเปิดออกมาได้ไม่ยากครับ

หงายฝาหลังพบว่ามีหน้าสัมผัสสี่จุด แต่ผมทดลองเปิดฝาหลังขณะเปิดเครื่องดูแล้วไม่มีผลใดๆ

ภาพด้านหลังเมื่อเปิดฝาหลังออก

ช่องใส่ microSD อยู่ด้านเดียวกับ miniUSB แต่ว่าต้องเปิดฝาครอบหลังออกก่อนถึงจะถอดใส่ได้

ภาพเมื่อใส่ microSD เรียบร้อยแล้ว

แฟลช กล้อง และหน้าสัมผัสแบตเตอรี่

สไตลัสอยู่ด้านซ้าย มีไม่กี่รุ่นที่อยู่ด้านซ้าย ผมชอบที่อยู่ด้านบนเพราะคิดว่าจะช่วยไม่ให้หล่นหายจากการใส่ไม่สนิทได้

ภาพสไตลัส หรู่มีระดับ สวยกว่าแบบที่เป็นพลาสติกล้วนๆทั้งแท่ง

จากบนมาล่าง hTC Elf / XPERIA X1 / hTC TyTnIIความยาวถนัดมือ ยาวกว่า Elf แต่สั้นกว่า TyTnII นิดหนึ่ง

มาดูกล่องอื่นๆกันบ้างนะครับ

ในกล่องใหญ่จะกล่องเล็กอยู่ด้านใน 3 กล่อง

ด้านบนซ้ายคือกล่องใส่อุปกรณ์เสริม ด้านขวาบนกล่องใส่ XPERIA X1 ด้านล่างคือกล่องใส่แผ่นซีดี และคู่มือการใช้งานต่างๆ

แผ่นซีดี และคู่มือ Opera Mobile 9.5, Getting started, Browsing the Web and Messaging, Multimedia

สำหรับอุปกรณ์เสริม อแดปเตอร์ สายซิงค์และชาร์ท ชุดหูฟังแฮนด์ฟรี สไตลัสสำรอง และแบตเตอรี่

อแดปเตอร์ใช้กับไฟฟ้า AC 110-240 โวล์ท โดยมี Output 5 โวล์ท 700 MA ดูจากขนาดกระแสแล้วผมแนะนำว่าให้ชาร์ทโดยเสียบทิ้งไว้ทั้งคืนจะสะดวกและมั่นใจว่าแบตเต็มในตอนเช้า

เป็นช่องเสียบ USB จึงสามารถใช้สายซิงค์ miniUSB มาใช้ได้

สายซิงค์ชาร์ทแบบทั่วๆไป บางท่านชอบอะไรที่เล็กๆ ก็ไปซื้อแบบม้วนเก็บได้มาใช้ก็ได้เช่นกันครับ

แบตเตอรี่ก้อนบางๆ แต่มีกำลังสูงถึง 1500 mAh หมดกังวลเรื่องแบตหมด จาก spec เขาบอกว่าคุยได้ถึง 10 ชั่วโมง แต่ผมยังไม่ได้ทดสอบเองนะครับ

แบต Li-Po พิกัด 4.2 V ทำในจีน

3 หน้า contact

ชุดหูฟังแฮนด์ฟรี แบบเป็นสองส่วน

ปุ่มกดรับวางสาย

สายเสียบแฮนด์ฟรี แบบมีไมค์ จะมีสี่ส่วน

สายจากหูฟังเป็นแบบสายหูฟังทั่วๆไป

หูฟังแบบกระทัดรัดสะดวกสไตร์ SE

ขยายให้เห็นขัดๆ

หูฟัง handfree เสียบต่อเรียบร้อยก่อนใช้งาน

เป็นยังไงครับ เห็นแล้วอยากเน๊าะ แต่ขอจบการแกะกล่องไว้แค่นี้ก่อน แล้วมาพบกันใหม่ภาค Software ครับผม

ที่มา PDAMobiz.com